เวสต์เทกซัส 70.38 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล เบรนท์ 73.87 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล
วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (11 พ.ย. 67) ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังนักลงทุนคลายกังวลผลกระทบพายุเฮอร์ริเคนและผิดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(-) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวลดลง หลังนักลงทุนคลายกังวลผลกระทบพายุเฮอร์ริเคนในอ่าวเม็กซิโกต่ออุปทานน้ำมันดิบสหรัฐฯ แม้ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 8 พ.ย. 67 เผยแม้พายุเฮอร์ริเคน Rafael ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตน้ำมันน้ำมันดิบสหรัฐฯ กว่า 23% ก็ตาม นักวิเคราะห์คาดความรุนแรงจากพายุดังกล่าวลดลง ส่งผลให้ความเสี่ยงที่จะกระทบอุปทานน้ำมันดิบโรงกลั่นน้ำมันดิบสหรัฐฯ ลดลง
(-) ตลาดผิดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ที่อาจจะยังไม่เพียงพอต่อการกระตุ้นอุปสงค์น้ำมันดิบจีน หลังล่าสุดตัวเลขนำเข้าน้ำมันดิบจีนเดือน ต.ค. 67 ปรับลด 9% เทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับลดอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6
(+) อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดนโยบายประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจเพิ่มระดับการคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลา ส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบประเทศดังกล่าวอาจตึงตัวขึ้น
(+/-) Baker Hughes เผยข้อมูลแท่นขุดเจาะประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 8 พ.ย. 67 โดยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า โดยอยู่ที่ระดับ 479 แท่น ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าเช่นเดียวกัน โดยอยู่ที่ระดับ 102 แท่น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสิงค์โปร์ส่งออกน้ำมันเบนซินประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 6 พ.ย. ลดลง 75.41% แตะระดับ 0.16 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันเบนซินได้รับแรงกดดัน หลังโรงกลั่นในเอเชียกลับมาดำเนินการผลิตหลังจากปิดซ่อมบำรุง
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปสงค์น้ำมันดีเซลสูงขึ้นจากโรงกลั่นอินโดนีเซีย มีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น 0.3 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันดีเซลยังคงถูกกดดันจากการส่งออกน้ำมันดีเซลจากเอเชียไปยังยุโรปที่ยังคงทำได้ลำบาก