วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SVI คาดว่าจะดีขึ้นในช่วงต่อไป

วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.เคจีไอฯ SVI คาดว่าจะดีขึ้นในช่วงต่อไป

ปรับลดเป้ายอดขายปีนี้ลง แต่คงประมาณการอัตราการเติบโตของยอดขายปี 2568 ไว้ที่ 10-15% เนื่องจากยอดขายลดลงในไตรมาสที่สาม เพราะมีการเลื่อนคำสั่งซื้อทั้งในส่วนของลูกค้าเดิม และ ลูกค้าใหม่

บริษัทจึงปรับลดเป้ายอดขายปีนี้ลงจากเดิม 655 ล้านดอลลาร์ฯ เหลือ 636 ล้านดอลลาร์ฯ (เราใช้สมมติฐานปี 2567 ที่ 650 ล้านดอลลาร์ฯ; -1% YoY) ซึ่งหมายความว่ายอดขายใน 4Q67 น่าจะอยู่ที่ประมาณ 170 ล้านดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ายอดขายน่าจะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า และ ยังคงประมาณการอัตราการเติบโตของยอดขายเอาไว้ในช่วง 10-15% (เราใช้สมมติฐานอัตราการเติบโตของยอดขายปี 2568 ที่ 5% YoY)

ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นไว้ในช่วง 9.0 – 9.5%

บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่สี่ โดยตั้งเป้าไว้ในช่วง 9-9.5% หลังจากที่อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาสที่สามต่ำเพียง 7.6% เพราะเงินบาทแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตราแลกเปลี่ยน QTD อยู่ที่ 33.7 บาท/ดอลลาร์ฯ ซึ่งยังแข็งค่าขึ้นจาก 34.5 บาท/ดอลลาร์ฯ ใน 4Q66 และ 35.5 บาท/ดอลลาร์ฯ ทั้งนี้ ถ้าหากจะให้อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยใน 4Q67 เท่ากับใน 3Q67 อัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่เหลือของไตรมาสนี้จะต้องอยู่ที่ประมาณ 35.5 บาท/ดอลลาร์ฯ ดังนั้น เราจึงคาดว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันกำไรในช่วงที่เหลือของไตรมาสที่สี่ นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปี 2568 ไว้ในช่วงประมาณ 9.5% - 10.0% (เราใช้สมมติฐานปี 2568 ที่ 9.0%)

คาดว่ายอดขายจะฟื้นตัวใน 4Q67 โดยยังต้องจับตาแนวโน้มบวกของกำไรในช่วงต่อไป

เราคาดว่ายอดขายน่าจะฟื้นตัวได้หลังจากที่ยอดขาย semiconductor โลกทำสถิติสูงสุดใหม่ในเดือนกันยายน 2567 อย่างไรก็ตาม จังหวะการฟื้นตัวอาจจะช้าลงหลังจากที่ยอดขายของบริษัทอ่อนแอใน 3Q67 และ มีการปรับเป้ายอดขายปีนี้ลง ในขณะเดียวกัน ความผันผวนของเงินบาทจะกดดันอัตรากำไร โดยเงินบาทที่แข็งค่าค่าทุก ๆ 1 บาทจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นลดลงประมาณ 0.5% และ ทำให้กำไรสุทธิลดลงประมาณ 10%

 

 

Valuation and action

เราคงคำแนะนำ “ขาย” และ ประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 6.00 บาท อิงจาก PER ที่ 13.0x (ค่าเฉลี่ย
ในอดีต -0.5 S.D.)

Risks

ภัยธรรมชาติ, มีการปิดโรงงานนอกแผน, ลูกค้าเปลี่ยนไปสั่งสินค้าจาก supplier รายอื่น, ขาดแคลน
วัตถุดิบ และ เงินบาทแข็งค่าขึ้น