วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งแรก

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งแรก

ทางเทคนิค คาด SET Index เคลื่อนไหว Up & Down แนวต้าน 1,463/1,474 จุด แนวรับ 1,444/1,441 จุด (EMA 50 วัน) ภาพระยะกลางอยู่ในรูปแบบ Sideways กรอบใหญ่ 1,273-1,716 จุด

ส่วนแนวโน้มระยะสั้น แม้อยู่ในแนวโน้มขาลง แต่อยู่ระหว่างการฟอร์มตัวเป็นไปได้ทั้งรูปแบบขาขึ้นไปที่ 1,487 จุด หากทะลุ 1,465 จุดขึ้นไปได้ หรือในทางตรงกันข้าม หากร่วงหลุดแนวรับสำคัญ 1,436-1,440 จุด ก็มีโอกาสร่วงต่อเนื่องไปที่ 1,432/1,425 จุดตามลำดับเช่นกัน ทั้งนี้ ในด้าน Tactical Play รายสัปดาห์ เราแนะนำ สะสมซื้อเมื่อดัชนีฯ ต่ำกว่า 1,455 จุด

ประเด็น Event สำคัญวันนี้

3Q24E Earnings Results: Consensus คาด US Walmart คาด EPS USD0.53 (Vs Previous EPS USD1.53); Lowe’s คาด EPS USD2.81 (Vs EPS USD3.27); Best Buy คาด EPS USD1.29 (Vs Previous EPS USD1.29); ZOOM คาด EPS USD1.31 (Vs Previous USD1.29); CH Weibo คาด EPS USD0.44 (Vs Previous EPS USD0.57)

Thailand: นายกฯ แพทองธาร นัดประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นัดแรก พิจารณา มาตรการระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว และโครงการของกระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวฯ กระทรวงพาณิชย์ ฯลฯ อาทิ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ฯลฯ

US: Fed Comments: จับตาสัญญาณดอกเบี้ยเฟดในการประชุมครั้งต่อไป จากสุนทรพจน์ของ Fed Governor Christopher Waller (งานสัมมนาที่นิวยอร์ก) Fed Richmond Barking (งานที่ Maryland) Fed Philadelphia Harker (งาน Fintech ที่ Pittsburg)

FMS เดือน พ.ย.: ผลสำรวจผจก.กองทุนโลก 179 แห่ง มูลค่า NAV USD503bn. ของ BofA ระหว่างวันที่ 1-7 พ.ย. พบว่า มุมมองต่อ Global Inflation เปลี่ยนจากแนวโน้มขาลง เป็นขาขึ้น ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า (รับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ Trump) และมุมมองต่อ Global และ US Economy คาดมีโอกาสเกิด No Landing สูงขึ้นเป็น 33% (เดิม 14%) และ Soft Landing ลดเหลือ 55% (เดิม 76%) ส่งผลต่อความเสี่ยงในอนาคต (Risks) เปลี่ยนมาเป็นเงินเฟ้อโลกพุ่งขึ้น รองลงมา คือ Geopolitic Conflice ส่วนการถือครองสินทรัพย์มีการลดน้ำหนัก Cash และเพิ่มน้ำหนักลงทุน US Equities: สูงขึ้น จาก 10% OW เป็น 29% OW 

 

 

(สูงสุดรอบกว่า 11 ปี นับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2013) โดยเน้นลงทุนหุ้นขนาดเล็ก Small Cap (Russel 2000 Index) เพิ่มขึ้นเป็น 35% (เดิม 6%) ทดแทนการซื้อ Large Cap ส่วนระยะสั้นเน้นซื้อ หุ้นกลุ่ม 7 นางฟ้า (M7) แต่น้ำหนักลงเล็กน้อยเป็น 48% จากเดิม 50% และ Long USD เพิ่มขึ้นเป็น 12% (เดิม 7%)

ส่วนมุมมองต่อสินทรัพย์ปี 2025:

- สินทรัพย์ที่คาดการณ์ว่าจะให้ผลตอบแทนดีสุด ได้แก่ US Stocks 43%, Global Stocks 20%, Gold 15%

- ตลาดหุ้น (Equity Index) ที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนดีสุด ได้แก่ Russell 35% Nasdaq 28% MSCI EM 15%

- สินทรัพย์ในตลาด FX ที่ดีสุด: US Dollar Index 45% Gold 28% JPY Yen 20%

- ปัจจัยที่คาดว่าจะสนับสนุน Most Bullish คือ 1. China Growth เติบโตสูงขึ้น 35% 2. US Tax Cuts 33% ในทางตรงกันข้ามปัจจัยกดดัน Most Bearish คือ 1. การปรับขึ้นเหนือคาดหมายของ US Bond Yields 50% 2. Global Trade War 35%

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งแรก

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งแรก

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ 

US Housing Starts เดือน ต.ค. คาด -0.2% MoM เป็น 1.34 ล้านหน่วย (Vs เดือน ก.ย. -0.5% MoM เป็น 1.354 ล้านหน่วย) และ Building Permits เดือน ต.ค. คาด +2.5% MoM เป็น 1.44 ล้านหน่วย (Vs เดือน ก.ย. -3.1% MoM เป็น 1.425 ล้านหน่วย)

EU Inflation Rate เดือน ต.ค. คาด -0.1% MoM, +2% YoY เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. ที่เติบโต -0.1% MoM, +1.7% YoY ส่วน Core Inflation Rate เดือน ต.ค. คาดคงเดิมที่ +2.7% YoY

หุ้นที่มีโมเมนตัมบวก แนะนำ: CBG BA CPALL

 

 

Strategic daily picks

CBG    ปิด 78.25 บาท/แนวรับ 75.50 บาท แนวต้าน 83.50 บาท

บริษัทคาดแนวโน้ม 4Q24 จะยังคงเติบโตต่อเนื่องไปถึงสิ้นปี 2024 ราว 10% หนุนจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและการฟื้นตัวในตลาดบางประเทศ รวมทั้งจะยังคงรักษาความเข้มแข็งของแบรนด์ผ่านกิจกรรมการตลาดและโปรโมชัน โดย Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 2.82 พันล้านบาท (+46.38% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 87.67 บาท

BA     ปิด 24.00 บาท/แนวรับ 23.50 บาท แนวต้าน 26.00 บาท

บริษัทคาดแนวโน้มในช่วง 2H24 จำนวนผู้โดยสารยังเติบโต จากยอดจองบัตรโดยสารล่วงหน้าในช่วง 4Q24-1Q25 จะเติบโตมากกว่า 20% YoY ทำให้เป้าหมายจำนวนผู้โดยสารทั้งปี 2024 ที่ระดับ 4.5 ล้านคน (1H24= 2.26 ล้านคน) และค่าโดยสารเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าระดับ 4 พันบาท/ที่นั่ง/คน โดย Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2024 ที่ 3.82 พันล้านบาท (+22.80% YoY) และมูลค่าเหมาะสม 28.19 บาท

CPALL    ปิด 63.25 บาท/แนวรับ 62.50 บาท แนวต้าน 67.00 บาท

9M24 มีกำไรปกติ 18.4 พันล้านบาท โต 47% และคิดเป็น 78% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2024E ที่ KTX คาดไว้ 23.4 พันล้านบาท คงประมาณการกำไรปกติแบบมีแนวโน้มเชิงบวก และมูลค่าเหมาะสม 12M FWD ที่ 64.80 บาท (อิงอัตราผลตอบแทนคาดหวัง 4.6%)

 

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งแรก