วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจากกระทรวงพาณิชย์เผยตัวเลขส่งออก ต.ค. โต 14.6% สูงกว่าตลาดคาด 5.1-6.3% โดยหลักมาจากการค้าโลกเติบโตในกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงแรง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้นักลงทุนยังคง ชะลอการลงทุนออกไปก่อน ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,438.25 จุด -5.06 จุด -0.35% มูลค่าการซื้อขาย 37,178.68 ลบ. Program Trading -1,371.01 ลบ. ต่างชาติ +11.32 ลบ. TFEX -2,765 สัญญา ตราสารหนี้ +760.17 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 123.74 จุด หรือ +0.28% ฟื้นตัวจากนักลงทุนซึมซับข่าวโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา และรายงานการประชุมเดือนพ.ย.ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
+ นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงข่าวรายงานผลการหารือของคณะรัฐมนตรีความมั่นคงเกี่ยวกับการทำข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน
+ ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 111.7 ในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 111.0 จากระดับ 109.6 ในเดือนต.ค.
+ ผู้ช่วยเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรรัสเซียประจำสหประชาชาติ กล่าวว่า ยูเครนเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) จัดการประชุมในวันที่ 27 พ.ย. เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับความร่วมมือทางการทหารระหว่างรัสเซียและเกาหลีเหนือ
+ สนค.เปิดเผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยว่าเดือน ต.ค.67 มีมูลค่าการส่งออก 27,222.1 ล้านดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 19 เดือน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 14.6%YoY สูงสุดในรอบ 3 เดือนจากตลาดคาด 5.1-6.3% ช่วง 10M67 มูลค่าส่งออก 250,398 ล้านดอลลาร์เพิ่ม 4.9%YoY

ปัจจัยลบ 

 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 17 เซนต์ หรือ -0.25% ปิดที่ 68.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ส่งผลให้ค่าพรีเมียมความเสี่ยง (risk premium) ของราคาน้ำมันปรับตัวลดลง
- สหภาพยุโรป (EU) เสนอมาตรการคว่ำบาตรบริษัทจีนหลายแห่งที่มีส่วนสนับสนุนบริษัทรัสเซียในการพัฒนาโดรนโจมตีที่ถูกนำไปใช้ทำสงครามกับยูเครน
- สหรัฐรายงานว่ายอดขายบ้านใหม่ลดลงสู่ระดับ 610,000 ยูนิตในเดือนต.ค. ดิ่งลง 17.3%MoM โดยแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2565 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 725,000 ยูนิต จากระดับ 738,000 ยูนิตในเดือนก.ย.
- ธปท.เปิดเผยว่าในช่วง 3Q67 สินเชื่อระบบธนาคารพาณิชย์ หดตัว 2%YoY จากการชำระคืนหนี้แม้ยังมีการให้สินเชื่อใหม่ต่อเนื่อง และสินเชื่อที่อยู่อาศัยแต่มีแนวโน้มชะลอลง ขณะที่สินเชื่อในภาคธุรกิจที่เผชิญปัญหาความสามารถในการแข่งขันยังคงหดตัว โดยเฉพาะในกลุ่มปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากการที่นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน เม็กซิโก และแคนาดา ขณะที่ตัวเลขส่งออกของไทยที่ออกมาดีกว่าตลาดคาดช่วยพยุงตลาด มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,430-1,445 จุด

กลยุทธ์การลงทุน     

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง : AMATA WHA ROJNA TLI BLA DELTA HANA

• รัฐเตรียมแจกเงิน 10,000 บาทให้กลุ่มผู้สูงวัย : CPALL CPAXT BJC TNP

• สินค้าส่งออกเดือน ต.ค. ที่เติบโตดี : STA NER TFG MALEE ITC AAI

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

TRUE "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" (Bloomberg Consensus 14.00 บาท)
"3Q67 มีกำไรหลัก 3.1 พันล้านบาท"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ผันผวน

•TRUE ผลประกอบการใน 3Q67 มีรายได้เท่ากับ 50,840 ลดลงเล็กน้อย -0.5%QoQ โดยมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของรายได้จากการขาย แต่ยังเติบโต +1.4%YoY จากการเติบโตของรายได้จากการให้บริการในกลุ่มธุรกิจตาง ๆ EBITDA เติบโตตอเนื่อง เป็นไตรมาสที่ 7 โดยหากนับตั้งแต่ควบรวมบริษัท EBITDA เพิ่มขึ้น 5.5 พันล้านบาท ซึ่งไดรับแรงผลักดันหลักจากการเติบโตในกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจออนไลนในขณะที่ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้รับผลกระทบเชิงบวกจากการรับรู้ผลประโยชนจากการควบรวม และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ใน 3Q67 บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิ -810 ล้านบาท ผลขาดทุนสุทธิได้รับผลกระทบเชิงลบจากผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว -3,917 ล้านบาท จากการด้อยค่าของสินทรัพยที่เกี่ยวของกับการดำเนินการพัฒนาเครือขาย ให้ทันสมัย (Network Modernization) โดยภายหลังจากการปรับปรุงรายการใหม่(Normalized) จากผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ซึ่งหากไม่รวมรายการดังกล่าวบริษัทจะมีกำไรสุทธิ 3,107 ล้านบาท (+24.1% QoQ, และพลิกจากขาดทุน -1.6 พันล้านบาท ใน 3Q66)

ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการของ TRUE จากการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่ลดลง ในขณะที่ค่าใช้จ่าย ในการดำเนินงานไดรับผลกระทบเชิงบวกจากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม อย่างไรก็ตามราคาหุ้นได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง (+130%YTD) จนใกล้เคียง ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus เราจึงแนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว”

หุ้นมีข่าว 

(+) CPALL (Bloomberg Consensus 81.00 บาท) มั่นใจไตรมาส 4/2567 สินค้ากลุ่มอาหารพร้อมทาน อาหารพร้อมปรุง และกลุ่มสินค้าส่วนบุคคล ยังหนุน SSSG ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง พร้อมตั้งเป้ารายได้รวมปี 2568 เติบโตกว่า GDP ย้ำแผนลงทุนราว 1.3 หมื่นล้านบาท ขยาย 700 สาขา เน้นเปิดสาขาไซซ์ใหญ่ Standalone มีที่จอดรถ ควบคู่คุมต้นทุนในกรอบที่กำหนด (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SECURE (Bloomberg Consensus - บาท) แย้มอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรด้าน AI รุกขยายฐานลูกค้าใหม่ในปีหน้า พร้อมเร่งเสริมแกร่งตลาดไซเบอร์ซีเคียวริตี้ไทย เล็งเพิ่มบุคลากรรองรับเพียบ โชว์งานภาครัฐโต 115% ฟากผู้บริหารลั่นไซเบอร์ซีเคียวริตี้เป็นหัวใจหลักขับเคลื่อนทุกอุตสาหกรรม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) HTC (Bloomberg Consensus - บาท) เผยติดตั้งเครื่องจักรใหม่เสร็จแล้ว เดินเครื่องเชิงการค้าเดือนธันวาคม 2567 บรรจุขวดแก้ว มั่นใจ Q4/2567 รายได้เข้าเป้าหนุนทั้งปีแตะ 8 พันล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้น 40% ส่วนปี 2568 โตต่อ 5-7% ระยะยาวปี 2576 คาดรายได้โต 1.5 หมื่นล้านบาท ขยายส่วนแบ่งตลาด Non-Alcoholic Ready to Drink จาก 25% ขึ้นสู่ 35% (ที่มา ทันหุ้น)

(+) GUNKUL (Bloomberg Consensus 3.90 บาท) ปักธงปีหน้ารายได้ทะลุ 10,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้เป้า 9,000 ล้านบาท ทำได้แน่นอน จากการรับรู้งาน EPC-เทรดดิ้ง และกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ทยอยเพิ่มเข้ามาไม่ต่ำ 100-150 เมกะวัตต์ต่อปี หนุนพอร์ตไฟฟ้าเติบโตแตะ 2,000 เมกะวัตต์ ในปี 69 (ที่มา ทันหุ้น)