เวสต์เทกซัส 68.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล เบรนท์ 72.83 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล
วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (28 พ.ย. 67) ราคาน้ำมันดิบทรงตัว หลังสต็อกน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังพอฟื้นตัว
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(-/+) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ทรงตัว โดยได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 3.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์นี้ สู่ระดับ 212.2 ล้านบาร์เรล รวมทั้งความกังวลของตลาดด้านเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งอาจกระทบการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ส่งผลต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดเริ่มคลายกังวลด้านอุปทานน้ำมันหลังมีข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
(+) สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 22 พ.ย. 67 ปรับลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 428.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลงราว 1.3 ล้านบาร์เรล
(+) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เผย GDP ไตรมาส 3/2567 ขยายตัว 2.8% ตามประมาณการเดิม โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายผู้บริโภคที่แข็งแกร่งและการส่งออกเพิ่มขึ้น แม้การลงทุนภาคธุรกิจจะชะลอตัว
(+) กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 2,000 ราย สู่ 213,000 ราย ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 216,000 ราย ส่วนผู้ขอรับสวัสดิการต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 9,000 ราย สู่ 1.907 ล้านราย ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 1.910 ล้านราย
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณสต็อกน้ำมันเบนซินในเกาหลีใต้เดือน ต.ค. 67 ปรับลดลง 5.3% MoM และ 4.0% YoY จากอุปสงค์ในประเทศที่ปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันในเกาหลีใต้มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากมาตรการภาษีน้ำมันที่กำลังจะสิ้นสุดลง รวมถึงอุปสงค์ในภูมิภาคเอเชียที่ยังคงมีแนวโน้มทรงตัว
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสต็อกน้ำมันสำเร็จรูปชนิดกลางที่เขตอุตสาหกรรมฟูไจราห์ปรับเพิ่มขึ้น 11.6% สู่ระดับ 2.1 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ตลาดยังคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันในเกาหลีใต้อาจลดลง หากภาครัฐไม่ขยายมาตรการลดภาษีน้ำมัน ที่กำลังจะสิ้นสุดในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหน้าสถานีบริการปรับตัวสูงขึ้น