วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก CPI ตามคาด
วันพุธที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ออกข้าง โดยช่วงเช้าดัชนีปรับตัวขึ้น จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มขนส่ง และอ่อนตัวลงในช่วงบ่าย จากแรงขายกดดันในหุ้นกลุ่มธนาคาร ไอซีที และพลังงาน นักลงทุนจับตา การประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐวานนี้
และการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ PPI ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,443.05 จุด -4.48 จุด -0.31% มูลค่าการซื้อขาย 36,085 ลบ. Program Trading -1,766 ลบ. ต่างชาติ -2,147 ลบ. TFEX -14,027 สัญญา ตราสารหนี้ -1,747 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.70 ดอลลาร์ หรือ +2.48% ปิดที่ 70.29 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าสหภาพยุโรป (EU) ประกาศคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซียรอบใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกน้ำมันของรัสเซียและ อาจทำให้อุปทานน้ำมันดิบทั่วโลกอยู่ในภาวะตึงตัว
+ สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.7%YoY ในเดือนพ.ย. สอดคล้องตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนต.ค.
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ธ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 86% ก่อนการเปิดเผยดัชนี CPI
+ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่า รัฐบาลของเขาจะช่วยเร่งรัดอนุมัติการลงทุนสำหรับบุคคลหรือบริษัทใดก็ตามที่ลงทุนในสหรัฐฯ ตั้งแต่ 1 พันล้านดอลลาร์ขึ้นไป
+ ครม.อนุมัติมาตรการแก้หนี้ลูกหนี้รายย่อยและผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางอื่น ๆ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ตามที่กระทรวงคลังเสนอเพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นรูปธรรมในการรักษาบ้าน รถยนต์ สถานประกอบการ ด้วยการยกเว้นดอกเบี้ย ตัดเงินต้น
+ ADB เผยแพร่รายงานประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียซึ่งมีการปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว2.3% เพิ่มขึ้นเป็น 2.6% และยังคงตัวเลขคาดการณ์GDP ของไทยในปี 2568 ไว้ที่ระดับเดิมที่ 2.7%
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 99.27 จุด หรือ -0.22% โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของ หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ แต่ดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก และดัชนี Nasdaq ปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 20,000 จุดเป็นครั้งแรก หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
- สหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติม ซึ่งครอบคลุมถึงส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในแผงโซลาร์เซลล์และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกมากมาย โดยถือเป็นมาตรการล่าสุด ที่จะปกป้องอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำคนปัจจุบันของสหรัฐฯ จะพ้นจากตำแหน่งในเดือนหน้า
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ ขณะที่ยังติดตาม ดัชนี PPI ในวันนี้ ขณะที่ปัจจัยในประเทศมีแรงหนุนจาก ครม.อนุมัติโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,435-1,450 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง : AMATA WHA ROJNA TLI BLA DELTA HANA
• รัฐเตรียมแจกเงิน 10,000 บาทให้กลุ่มผู้สูงวัย : CPALL CPAXT BJC TNP
• สินค้าส่งออกเดือน ต.ค. ที่เติบโตดี : STA NER TFG MALEE ITC AAI
• ปรับดัชนี FTSE SET Index Series มีผลวันที่ 23 ธ.ค. 67 : FTSE SET Large Cap เข้า MINT ออก EA FTSE SET Mid Cap เข้า CCET EA ออก BLAND BYD MINT ORI SPCG
• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
หุ้นรายงานพิเศษ
KBANK "ซื้อ" ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 170 บาท upside 10%
"กำไร 9M97 +15%YoY คิดเป็น 79% ของประมาณการ"
•งวด 3Q67 มีกำไรสุทธิ 11,965 ล้านบาท -5%QoQ +6%YoY งวด 9M67 มีกำไร 38,104 ล้านบาท +15%YoY %NPL 3.2% และ %Coverage 151% ทรงตัว เมื่อเทียบกับต้นปี ฐานะเงินกองทุนยังแข็งแกร่งที่ 20.58%
•ปลายเดือนต.ค. 67 มีเงินให้สินเชื่อสุทธิจำนวน 2.2 ล้านล้านบาท เร่งตัวขึ้น +0.3%MoM +0.9%YoY ทำให้เมื่อเทียบกับต้นปีมีสินเชื่อหดตัวเหลือ -1.8%YTD จาก -2.1% ณ ปลายเดือนก.ย. 67 อานิสงส์จากเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นปลายปี
•ความเห็น ฝ่ายวิจัยประเมินว่า KBANK จะได้รับประโยชน์จากมาตรการแก้หนี้ จะช่วยลดหนี้ที่อาจกลายเป็น NPL ชะลอตัวลงได้ เนื่องจากมีสัดส่วนลูกหนี้ รายย่อยและ SME ในสัดส่วนที่สูงกว่าหุ้นธนาคารตัวอื่น (55% ของสินเชื่อรวม) ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 67 เฉลี่ย 48,000 ล้านบาท +13%YoY กำไรงวด 9M67 คิดเป็น 79% ของประมาณการโดย Consensus ขณะที่แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในงวด 4Q67 คาดจะเร่งตัวขึ้น ราคาหุ้นล่าสุด ซื้อขายที่ PBV 0.66x ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 0.67x ราคาหุ้นยังมี upside เราจึงแนะนำ “ซื้อ”
หุ้นมีข่าว
(+) ITEL (Bloomberg Consensus 2.99 บาท) แย้มดีลขายเงินลงทุนกิจการดาต้าเซ็นเตอร์รับรู้เป็นกำไรหลักร้อยล้านบาท ไตรมาส 4/2567 หนุนงบบรรทัดสุดท้ายส่อนิวไฮ ขณะที่ปี 2568 วางเป้ารายได้โต 3.8 พันล้านบาท คาดภาครัฐบาลหันมาฮิตใช้คลาวด์เพิ่มมากขึ้น ส่วนแผนไอพีโอ "บลู โซลูชั่น" หวังระดมทุนเข้า SET ได้เดือนกุมภาพันธ์ 2568 (ที่มา ทันหุ้น)
(+) CPALL (Bloomberg Consensus 81.00 บาท) ตั้งเป้าขยายเครือข่ายสาขาในประเทศไทยเป็น 20,000 สาขา จาก 15,053 สาขา เมื่อสิ้นเดือนกันยายน 2567 เพื่อให้เป็นไปตามแผนเปิดสาขาใหม่ 700 สาขาต่อปี ระบุ SSSG เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2567 บวก 4-5% ได้ประโยชน์จากปัจจัยฤดูกาลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ รวมถึงมาตรการแจกเงินที่เชื่อว่าจะกระตุ้นการใช้จ่าย ขณะที่ธุรกิจต่างประเทศมีแนวโน้มดี เล็งเห็นโอกาสเติบโตในไทย (ที่มา ทันหุ้น)
(0) CHG (Bloomberg Consensus 3.30 บาท) เลื่อนประชุมเซ็นสัญญาประกันสังคม รอปรับอัตราจ่ายปี 2568 ชูข้อเสนอแก้ไข Global Budget เพิ่มความโปร่งใส-ลดปัญหากฎหมาย เผยรายได้ประกันสังคมไตรมาส 3 แตะ 31% ผู้ประกันตนลงทะเบียน 550,000 คน จากโควตา 698,000 คน เดินหน้าขยายฐานบริการ พร้อมเปิดแผนปี 2569 โรงพยาบาลระยองอินเตอร์ รองรับผู้ป่วยเอกชน-ต่างชาติ (ที่มา ทันหุ้น)
(+) MAGURO (Bloomberg Consensus 23.38 บาท) ปลื้มยอดขาย The Flavor Food สูงกว่าเป้า 30-40% ดันรายได้ไตรมาส 4/2567 แจ่ม แย้มปลายปีเตรียมเปิด 2 แบรนด์ใหม่ TONKATSU AOKI และ CouCou ฉายภาพปี 2568 โตต่อเนื่อง ฟากโบรกส่องกำไรไตรมาส 4/2567 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ที่มา ทันหุ้น)