วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway Down

ขณะที่นักลงทุนจับตาการประกาศผลการประชุมเฟด ในสัปดาห์นี้ โดยนักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,419.72 จุด -11.95 จุด -0.83% มูลค่าการซื้อขาย 40,481.64 ลบ. Program Trading -1,080.47 ลบ. ต่างชาติ -1,270.74 ลบ. TFEX -5,384 สัญญา ตราสารหนี้ -1,463.16 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.4% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมวันพุธที่ 18 ธ.ค.นี้
+ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ราคาบ้านใหม่ปรับตัวลดลงในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 17 เดือน เนื่องจากรัฐบาลเพิ่มมาตรการกระตุ้นเพื่อฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เผชิญภาวะวิกฤติ
+/-สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานผลการสำรวจพบว่า นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์มีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า มีสาเหตุจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายการตั้งกำแพงภาษีของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ และผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ต่อเศรษฐกิจไทยซึ่งถูกขับเคลื่อนจากการส่งออก

ปัจจัยลบ 

- ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 110.58 จุด หรือ -0.25% แต่ดัชนี S&P500 ยังคงปิดบวก และดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮอย่างต่อเนื่อง ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุม ของ FED รวมทั้งแถลงการณ์หลังการประชุมเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 58 เซนต์ หรือ -0.81% ปิดที่ 70.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ถูกกดดันจากจีนเปิดเผยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่อ่อนแอลง และนักลงทุนชะลอคำสั่งซื้อก่อนรู้ผลการประชุม ของ FED

 

 

- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงอยู่ ในภาวะหดตัว อย่างไรก็ดี ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาค การผลิตและภาคบริการเบื้องต้นปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.6 ในเดือนธ.ค. สูงสุดในรอบ 33 เดือนจากการขยายตัวของภาคบริการ
- กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เปิดเผยว่า กองทัพอากาศสามารถสกัดขีปนาวุธลูกหนึ่งที่มีการยิงมาจากเยเมน โดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้ยังปรับตัวในลักษณะ Sideway Down โดยยังขาดปัจจัยใหม่เข้าหนุนตลาด นักลงทุนจับตาผลการประชุมของเฟด ในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,410-1,425 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการที่ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง : AMATA WHA ROJNA TLI BLA DELTA HANA

• สินค้าส่งออกเดือน ต.ค. ที่เติบโตดี : STA NER TFG MALEE ITC AAI

• ปรับดัชนี FTSE SET Index Series มีผลวันที่ 23 ธ.ค. 67 : FTSE SET Large Cap เข้า MINT ออก EA FTSE SET Mid Cap เข้า CCET EA ออก BLAND BYD MINT ORI SPCG

• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

CK  "ซื้อ" (Bloomberg Consensus 26.50) 
"กำไร 3Q67 +57%YoY และ 106%QoQ"

•รายงานกำไร 3Q67 ที่ 1.0 พันลบ. +57%YoY และ 106%QoQ ได้แรงหนุนจากรายได้ ค่าก่อสร้างที่เติบโต 5%YoY และเติบโต 2%QoQ สู่ 9.38 พันลบ. ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นอ่อนตัวลงจาก 7.15% ใน 2Q67 สู่ 7.02% เนื่องจากโครงการก่อสร้างที่อัตรากำไรขั้นต้น ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทยอยแล้วเสร็จ และส่วนแบ่งกำไร +79%YoY และ+212%QoQ สู่ 1.07 พันลบ. (ส่วนแบ่งกำไรจาก BEM 383 ลบ. CKP 375 ลบ. และ LPCL 311 ลบ.) จากแรงหนุนของโครงการหลวงพระบางที่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 1.5-1.6 พันลบ. ทั้งนี้ รายงานกำไร 9M67 ที่ 1.62 พันลบ. +20%YoY

•คาดรายได้ 4Q67 ทรงตัว เพราะยังไม่มีการรับรู้รายได้จากโครงการใหม่ ณ ปัจจุบัน CK มี Backlog 2.2 แสนลบ. รับรู้รายได้ไปจนถึงปี 73 คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากโครงการที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ นอกจากนี้ ครม.พิจารณาโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) หมายเลข 5 (M5) ส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข (ดอนเมืองโทลล์เวย์) ช่วงรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 22 กิโลเมตร(กม.) ของกรมทางหลวง(ทล.) และโครงการฯ เชื่อมโยงโครงข่าย ดอนเมืองโทลล์เวย์กับมอเตอร์เวย์สาย M6 ช่วงบางปะอิน-นครราชสีมาในวันนี้

•ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการของ CK และกลุ่มก่อสร้างที่ครม.จะพิจารณามอเตอร์เวย์ M5 และ M6 ในวันนี้ และปี 68 จะเป็นปีทองเนื่องจากมีงานประมูลออกมาราว 4.9 แสนลบ. เป็น Catalyst ต่อการลงทุนในกลุ่มก่อสร้าง เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) LEO (Bloomberg Consensus - บาท) แย้มผลงานไตรมาส 4/67 สดใส คาดมีการเติบโตของรายได้และกำไรขั้นต้นจากการรับรู้รายได้ของหน่วยธุรกิจใหม่ๆ ชูการขายทุเรียนไปยังจีนเด่น เซ็นสัญญาขาย 500 ตู้ ส่งมอบครบปี 68 ด้านธุรกิจ Self Storage ยังโตอย่างต่อเนื่อง (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SA (Bloomberg Consensus - บาท) เล็งโมเดลเติบโตยั่งยืน หวังอัพรายได้ประจำแตะ 20% ใน 3 ปีข้างหน้า จากแผนการเปิดให้บริการโรงแรม แถมล่าสุดเปิดตัว Investment Program ในส่วนของ Cassia Rama 9 ชูการันตีผลตอบแทน 5% ใน 5 ปีแรก บอสใหญ่แย้มโค้งท้ายนิวไฮ โครงการรอบุ๊กเพียบ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SSP (Bloomberg Consensus 9.00 บาท) ส่งซิก Q4/2567 ผลงานนิวไฮ เก็บเกี่ยวขายไฟพุ่ง-ต้นทุนการเงินลด แถมใส่เกียร์รุกชิง PPA นอก-ในประเทศต่อยอดเพิ่ม หวังดันกำลังผลิต 1,000 เมกะวัตต์ ในปี 2575 แถมตอกย้ำพื้นฐานแกร่ง หลังทริสเรตติ้งยังคงเครดิตองค์กร "BBB+“ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BIZ (Bloomberg Consensus - บาท) มั่นใจผลงานไตรมาส 4/2567 ดีตามแผนที่วางไว้ หลังตุนแบ็กล็อก 975 ล้านบาท เล็งโอกาสร่วมประมูลงานใหม่ มูลค่ารวม 1,000-2,000 ล้านบาท ลุยตลาดรักษามะเร็งตั้งเป้าขยายเครือข่ายโรงพยาบาลมะเร็ง และการพัฒนาธุรกิจโรงพยาบาลเพื่อการรักษาในอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)