วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Sideway

อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาการประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในวันพรุ่งนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,387.72 จุด -3.16 จุด -0.23% มูลค่าการซื้อขาย 35,326 ลบ. Program Trading -510.4 ลบ. ต่างชาติ -1,114.9 ลบ. TFEX -27,947 สัญญา ตราสารหนี้ +1,107.2 ลบ.

ปัจจัยบวก  

+ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 106.84 จุด หรือ +0.25% ท่ามกลางการ ซื้อขายที่ผันผวน ขณะที่นักลงทุนซึมซับข้อมูลแรงงานที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน รวมทั้งรายงานข่าวที่ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ มีแผนที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติ เพื่อให้เขามีอำนาจในการใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีนำเข้า
+ ADP เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 122,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2567 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 136,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 146,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 95.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุม วันที่ 28-29 ม.ค. และคาดว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ จะเกิดขึ้นในเดือนพ.ค.หรืออาจจะเป็นเดือนมิ.ย.

ปัจจัยลบ 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 93 เซนต์ หรือ 1.25% ปิดที่ 73.32 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และรายงานสต็อกน้ามันเบนซินและน้ามันกลั่นของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
- กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 201,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุด วันที่ 4 ม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2567

- โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผย ว่าไม่ปิดกั้น ความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารหรือมาตรการทางเศรษฐกิจเพื่อเข้าครอบครองคลองปานามาและกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ด้านการขยายดินแดนที่เขาผลักดันมาตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งเมื่อ วันที่ 5 พ.ย.
- สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า เขาต้องการเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็น "อ่าวอเมริกา" นับเป็นอีกหนึ่งแผนงานที่ สร้างความฮือฮา ก่อนที่เขาจะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปลายเดือนนี้
- กกร. ได้ประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 68 ขยายตัวได้ที่ 2.4-2.9% ขณะที่การส่งออกในปี 68 จะขยายตัว 1.5-2.5% ต่ำกว่าปี 67 ที่เติบโต 4% ส่วนอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำที่ 0.8-1.2% เศรษฐกิจไทยยังอาศัยภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์หลัก

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัว Sideway ออกข้าง โดยมีแรงกดดันจากข่าวโดนัลด์ ทรัมป์ มีแผนที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติ เพื่อให้เขามีอำนาจในการใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีนำเข้า ขณะที่ในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่หนุน มองกรอบดัชนีที่ 1,380-1,395 จุด

กลยุทธ์การลงทุน     

• หุ้นที่ได้ประโยชน์โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” : KBANK SCB BBL TTB
• หุ้น ESG ดีเยี่ยม : ADVANC GULF BBL BEM RATCH CPN
• หุ้นได้ประโยชน์ Easy-E receipt : CRC COM7 ERW CENTEL MINT M AU TNP SIS SYNEX IP HL
• หุ้นเด่น IAA : AOT ADVANC BDMS CPALL

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

กลุ่มธนาคาร preview 2024E

หุ้นมีข่าว

(+) SJWD (Bloomberg Consensus 16.00 บาท) เดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ขยายธุรกิจ "คลังสินค้าห้องเย็น" ในระดับภูมิภาค เชื่อมต่อโลจิสติกส์และซัพพลายเชนในอาเซียน ปักหมุดขยายการลงทุนในมาเลเซีย ผนึก SWIFT พาร์ตเนอร์ในมาเลเซีย จัดตั้งบริษัทร่วมทุน เตรียมแผนรุกขยายคลังสินค้าห้องเย็น ก้าวสู่ผู้ให้บริการคลังสินค้าห้องเย็นชั้นนำในมาเลเซีย (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AOT (Bloomberg Consensus 68.00 บาท) เผยยอดใช้สนามบินช่วงปีใหม่ (วันที่ 27 ธ.ค. 67 - 2 ม.ค. 68) มีผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าอากาศยานของ AOT กว่า 2.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เตรียมใช้ระบบ Biometric เต็มสูบ 15 มกราคม (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EA (Bloomberg Consensus 3.80 บาท) ผนึก Chengli Special ผลิต-ส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าประเภทพิเศษ คาดเริ่มผลิตเม.ย. 2568 คาดสร้างรายได้กว่า 3 พันล้านบาท เริ่มรับรู้รายได้เต็มปี 2569 เผยเดือนกุมภาพันธ์นี้ จับมือพันธมิตรจีนร่วมทุน เพื่อขยายผลิตแบตเตอรีลิเทียมไอออนเป็น 4 กิกะวัตต์ ด้านผู้ถือหุ้นไฟเขียวเพิ่มทุน เผย 9 เดือนกระแสเงินแตะ 5.6 พันล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) KBS (Bloomberg Consensus - บาท) ประกาศชัด! ไม่มีโรงงานน้ำเชื่อม แถมไม่ได้จำหน่ายน้ำเชื่อม เน้นส่งออกน้ำตาลให้กับลูกค้ารายใหญ่ผ่านเทรดเดอร์ ด้วยตู้คอนเทนเนอร์เป็นหลัก แถมจีนไม่ใช่ลูกค้ารายใหญ่ ชูเกาหลีใต้ ฮ่องกง สิงคโปร์ ไต้หวัน เวียดนาม เป็นตลาดหลัก (ที่มา ข่าวหุ้น)