วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้นทดสอบ 1200

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้นทดสอบ 1200

วันพุธที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวขึ้น โดยได้รับ Sentiment เชิงบวกจากบริษัทหลักทรัพย์ ยูบีเอส ซึ่งเป็น โบรกต่างประเทศ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทยเป็น Overweight จากเดิม Neutral

มีแรงซื้อ กลับเข้ามาในหุ้นกลุ่ม Big-Cap นำโดย AOT GULF CPALL และ ADVANC อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคง จับตาผลการประชุมเฟดที่ประกาศช่วงเช้ามืดวันนี้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,189.66 จุด +13.49 จุด +1.15% มูลค่าการซื้อขาย 42,722.37 ลบ. Program Trading -500.48 ลบ. ต่างชาติ -707.86 ลบ. TFEX -7,336 สัญญา ตราสารหนี้ -1,320.53 ลบ.

ปัจจัยบวก  

+ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 383.32 จุด หรือ +0.92% หลังจาก FED มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาดและส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ขณะเดียวกัน FED ยังคงประเมิน ผลกระทบของมาตรการภาษีศุลกากรของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ +0.39% ปิดที่ 67.16 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง
+ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่าการสนทนากับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เป็นไปด้วยดี
+/- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี เอาไว้ที่ระดับ 3.1% และ คงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปี ที่ระดับ 3.6%

ปัจจัยลบ 

- FED ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ (GDP) ในปีนี้ลงสู่ระดับ 1.7% จากคาดการณ์เดิมที่ระดับ 2.1% และปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ สู่ระดับ 2.8% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.5%
- พาวเวล ประธาน FED กล่าวว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ FED ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อมาจากมาตรการภาษีศุลกากร และมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศต่าง ๆ จะส่งผลให้ FED เผชิญกับความล่าช้าในการบรรลุเป้าหมายการสร้างเสถียรภาพด้านเงินเฟ้อ

 

 

- กองทัพอิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศถล่มฉนวนกาซา อย่างหนัก คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 400 ราย ตามรายงานของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์ ทำลายความสงบที่เกิดขึ้นนานเกือบ 2 เดือนนับตั้งแต่มีการตกลงหยุดยิง โดยอิสราเอลประกาศว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
- อินเดียซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กกล้ารายใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก กำลังวางแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กส่วนใหญ่ ในอัตรา 12% ซึ่งถือเป็นประเทศล่าสุดในบรรดาประเทศต่าง ๆ ที่พยายามหาทางปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศของตัวเอง

แนวโน้มตลาดวันนี้    

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ต่อ โดยมีแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่ม Big Cap. ที่ปรับตัวลงแรง ประกอบกับเฟดมีมุมมองว่าเงินเฟ้อจากการขึ้นภาษีนำเข้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ เป็นปัจจัยชั่วคราว มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,180-1,200 จุด

กลยุทธ์การลงทุน   

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากกระแสซีรีส์ "The White Lotus" : WPH RP MINT CENTEL BA BAREIT
• หุ้นส่งออก ม.ค. เติบโตดี : STA NER GFPT AAI ITC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก กนง. ลดดอกเบี้ย : AP LH SIRI SC SPALI QH MTC TIDLOR
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จากโครงการ TISA : CPALL SCB TISCO EGCO BDMS TU ADVANC
• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก ThaiESG Extra : BBL BEM CPALL PTT TISCO

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

TQM "ซื้อ" (ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 22.50 บาท)
"กำไรงวด 4Q67 -17%QoQ, -19%YoY กำไรปี 67 -1%YoY"

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก ลุ้นทดสอบ 1200

- ปี 67 มีรายได้รวม 3,991 ล้านบาท +6.2%YoY จากยอดขายผลิตภัณฑ์ประกันที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะประกันรถยนต์ที่มีอัตราการต่ออายุประกันสูงและขยายสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ โดยมีต้นทุนบริการ +11%YoY และค่าใช้จ่ายบริหาร +2% ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 811 ล้านบาท -0.7%YoY อัตรากำไรขั้นต้น 51% และอัตรากำไรสุทธิ 21.6%

- ปี 68 ตั้งเป้ารายได้เติบโต 5-10% รักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจประกันรถยนต์และมุ่งสู่ ธุรกิจประกันประเภทอื่น ได้แก่ ประกันสัตว์เลี้ยง ประกันที่อยู่อาศัย ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต และประกันภัยธุรกิจ การพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์

- ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อรายได้ที่มีศักยภาพเติบโตตามภาพรวมธุรกิจประกัน ขณะที่ Bloomberg Consensus คาดกำไรปี 68 เฉลี่ย 871 ล้านบาท +7%YoY ทั้งนี้บริษัท มีโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงินวงเงินไม่เกิน 700 ล้านบาทและไม่เกิน 30 ล้านหุ้นระหว่าง 2 ม.ค. – 30 มิ.ย. 2568 ราคาหุ้นที่ลดลง 47% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาซื้อขาย ที่ระดับ 10.6 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 11.5 เท่า แสดงถึง downside risk ที่จำกัด ขณะที่ consensus คาดการณ์ yield เฉลี่ย 7% ในปี 68 จึงแนะนำซื้อ

หุ้นมีข่าว

(+) PIS (Bloomberg Consensus - บาท) ซดบิ๊กโปรเจ็กต์ พัฒนาระบบ ERP ให้กับ กฟภ.มูลค่ากว่า 2.9 พันล้านบาท ดันแบ็กล็อกแตะ 5.93 พันล้านบาท แย้มอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานระดับพันล้านบาท มั่นใจดันผลงาน 1-3 ปี เติบโตก้าวกระโดด สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SINO (Bloomberg Consensus - บาท) วางหมากปี 2572 รายได้แตะ 1 หมื่นล้านบาท รับขยายฐานเต็มพิกัด หนุนพอร์ตลูกค้าพุ่ง ส่วนปีนี้มองรายได้ทะยานเกิน 16% จากปีก่อน มาอยู่ที่ 4.8 พันล้านบาท รับดีมานด์ทะลัก แถมเดินหน้า M&A ธุรกิจขนส่งทางอากาศ สยายปีกรับทรัพย์เพิ่ม คาดชัดครึ่งแรกปีนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TEGH (Bloomberg Consensus 4.40 บาท) ปักหมุดรายได้ปี 68 เติบโต 30% แตะ 2.2 หมื่นล้านบาท อานิสงส์ยางแท่งเกรด EUDR แนวโน้มเติบโตสวย แย้มยอดขายยางปีนี้มีลุ้นออลไทม์ไฮ ขณะที่เดินหน้าน้าบริษัทย่อย "TEBP" ระดมทุนเข้าจดทะเบียนใน mai เตรียมจ่ายเงินปันผล 0.21 บาทต่อหุ้น วันที่ 23 พฤษภาคมนี้ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) NCAP (Bloomberg Consensus - บาท) ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% พอร์ตสินเชื่อรวมแตะ 9,626 ล้านบาท เน้นสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รับดีมานด์ในตลาด เล็งขยายพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนเล่มรถจักรยานยนต์เพิ่มคาดโตขึ้นกว่า 10 เท่าในปีนี้ คุมหนี้เสีย (NPL) ไม่เกิน 1.8% คุมต้นทุนอยู่ มั่นใจรับมือดอกเบี้ยรับ EIR ไม่เกิน 23% ต่อปี แถมรักษาความสามารถในการสร้างรายได้และก้าไรได้ดี (ที่มา ทันหุ้น)