3 ผู้เชี่ยวชาญบล็อกเชน แนะคนรุ่นใหม่ ‘Develop Skill ตั้งเป้าหมาย ไม่ตีกรอบ’ 

นายชานน จรัสสุทธิกุล Co-Founder และ CEO Forward Labs สตาร์ตอัป ฟินเทคด้านบล็อกเชน ได้ให้ข้อคิดว่า ทักษะที่สำคัญที่สุดในสายงาน Blockchain คือ “Skill ในการ Develop skill” คือ ความสามารถในการพัฒนาตนเอง ทำยังไงให้สปอร์ตไลต์ส่องมาหาเรา

ให้มองว่าเราก็คือ ผลิตภัณฑ์ชิ้นโบแดงเหมือนกันที่จะต้องทำให้ตัวเองแตกต่าง และโดดเด่นกว่าคนอื่น หากเรามีสกิลนี้จะทำให้เราเป็นได้ทุกอย่างที่เราต้องการ

หลังเรียนจบจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเพื่อตัดสินใจว่าตัวเองเหมาะกับอะไร ไม่ว่าจะเลือกเรียนต่อ หรือเลือกทำงาน ทั้งสองอย่างให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรจะชัดเจนก่อนจะเลือกคือ เป้าหมายปลายทางที่เราอยากจะไป หรือที่เราอยากจะเติบโตในอนาคต

เมื่อเราวางเป้าหมายได้แล้ว ค่อยมา scope down ลงมาว่าทางเลือกไหนจะพาเราไปสู่เป้าหมาย ถ้าเห็นว่าเรียนต่อ ก็เลือกเรียน แต่ถ้าเห็นว่าทำงาน ก็เลือกทำงาน แต่ใช่ว่าทำงานจะเรียนไปด้วยไม่ได้ เนื่องด้วยทุกวันนี้เรามีอินเทอร์เน็ต การเรียนรู้จึงไม่ได้ปิดกั้นอยู่แค่การ take course จาก ป.โท ป.เอก อย่างเดียว ตรงกันข้ามถ้าเรามาสายวิจัยเชิงลึก การเรียนหลักสูตรเหล่านั้นก็จะตอบโจทย์มากกว่า

ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน Co-Founder และ Advisor Forward Labs เพิ่มเติมว่า คนที่เรียนต่อมีอยู่ไม่กี่แบบ กลุ่มแรกคือ อยากรู้สิ่งที่เรียนจากปริญญาตรีเพิ่มแบบเชิงลึก กลุ่มถัดมาคือ กลุ่มคนที่ยังไม่มีงานทำ ถัดมา คือ กลุ่มคนที่ยังไม่อยากทำงาน แต่ไม่อยากอยู่เฉย ซึ่งถ้าเรามีความสุขกับการเรียน มันก็ไม่มีปัญหา

แต่เราอย่าลืมว่าเราต้องใช้เวลาอยู่กับหลักสูตรเหล่านี้นานพอสมควร ยิ่งถ้าเรียนถึงปริญญาเอกแบบผมไม่ต้องพูดถึงเลย ใช้เวลาในชีวิตเยอะมาก ส่วนตัวรู้สึกได้อะไรจากการทำงานเยอะกว่าการเรียน กลับมาที่ทำงาน ในช่วงชีวิตการทำงานผมเชื่อว่าเราจะต้องได้เจองานที่ไม่ชอบอยู่หลายต่อหลายครั้งแน่นอน

ถ้าเราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ดี เราต้องมองหาโอกาสในการพัฒนาไปยังจุดที่ทำให้ตัวเองสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และด้วยสุขภาพจิตใจที่ดีให้ได้ อย่าคิดจะปักหลักอยู่ที่เดียวที่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ใช่ การหาโอกาสให้กับตัวเองอยู่เสมอ เพื่อเปลี่ยนตัวเองไปอยู่ในจุดที่ดีขึ้น จะช่วยให้เราเดินทางในสายอาชีพได้ไกลกว่า

ด้าน นายศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ CEO and Founder Bitcast  และ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย แนะนำว่าไม่อยากให้ตีกรอบให้กับตัวเอง จากเส้นทางที่ระบอบการศึกษาเป็นคนสร้างให้เราเห็น หลังเรียนจบพวกเราเป็นอะไรได้มากกว่านั้น และทำอะไรได้มากกว่านั้น ซึ่งในความจริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องรอจนถึงเราเรียนจบ เราสามารถทำสิ่งที่เราต้องการได้ตั้งแต่ตอนนี้เลยด้วย อย่าให้กรอบคอยจำกัดความสามารถทางความคิด และความสามารถทางการกระทำ

สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องเริ่มตั้งคำถามอย่างเป็นระบบ และเป็นเหตุเป็นผล เพื่อให้สามารถสร้างแนวทางที่นอกเหนือที่จากกรอบที่ถูกตีไว้ วิธีการนี้จะช่วยให้เราสร้างโอกาสในการใช้ชีวิต และการทำงานได้หลากหลาย แต่อย่าลืมเคารพความคิดเห็นของคนอื่นด้วย 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์