‘บัญชีเทรดคริปโท’ โตสวนภาวะตลาด "บิทคับ' ชี้ นักลงทุนมองเห็นโอกาสทำกำไร
"บัญชีเทรดคริปโท" โตต่อเนื่อง 4 เดือนแรกปีนี้ เพิ่ม1.76 หมื่นบัญชี ดันบัญชีรวมแตะ 2.93 ล้านบัญชี "บิทคับ เอ็กซ์เชนจ์" ชี้ นักลงทุนมองเป็นโอกาส หลังราคาเหรียญปรับตัวลงมาพอสมควร เผย ลูกค้าเปิดบัญชีแตะ 1.89 ล้านบัญชี เดินหน้าเพิ่มสินค้าต่อเนื่อง เน้นโทเคนดิจิทัล
แม้ปัจจุบันราคาบิตคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 26,848.8 ดอลลาร์ ต่อBTC จากสิ้นปี 2565 อยู่ระดับ 16,487.3 ดอลลาร์ต่อBTC ด้าน กูรูด้านคริปโทเคอร์เรนซี ยังมองว่าราคาบิตคอยน์ยังไม่พ้นช่วงขาลง ซึ่งจะยังคงเห็นราคาบิตคอยน์ผันผวน ทำให้นักลงทุนจะต้องจับจังหวะการลงทุนที่ดี
สำหรับนักลงทุนในประเทศนั้น ยังคงเดินหน้าเปิดบัญชีซื้อขายคริปโทอย่างต่อเนื่อง สะท้อนจากรายงานสรุปภาวะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)พบว่า จำนวนบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดผ่านศูนย์ซื้อขายในเดือนเม.ย. 2566 อยู่ที่ 2,932,536 บัญชี เพิ่มขึ้น 2,939 บัญชี จากเดือนมี.ค. 2,929,597 บัญชี ซึ่งเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2,619 บัญชี จากเดือนก.พ.อยู่ที่ 2,926,978 บัญชี ขณะที่เดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 7,339 บัญชี จากเดือนม.ค.อยู่ที่ 2,919,639 บัญชี และเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 4,781 บัญชี จากเดือนธ.ค.2565 ที่ 2,914,858 บัญชี รวม 4 เดือนแรกปีนี้เพิ่มขึ้น 17,678 บัญชี จากสิ้นปี 2565
นายอรรถกฤต ชิมผลาพิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด หรือ Bitkub Exchange เปิดเผยกับกรุงเทพธุรกิจว่า นักลงทุนยังคงเปิดบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่องนั้น ส่วนตัวมองว่าอาจะเป็นเพราะราคาคริปโท ปรับตัวลงมาพอสมควรแล้ว จึงมองเป็นโอกาสในการเข้าไปเก็งกำไร หรือจับหวังหวะการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี
สำหรับBitkub Exchange มีนักลงทุนเข้ามาเปิดบัญชีอย่างต่อเนื่องทุกเดือน ล่าสุด (19 พ.ค.)มีจำนวนบัญชี 1.89 ล้านบัญชีแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเข้ามาเปิดบัญชีกับบริษัทอย่างต่อเนื่องนั้น เพราะ Bitkub Exchange มีสภาพคล่องการซื้อขายสูงที่สุด ทำให้เมื่อนักลงทุนต้องการซื้อ หรือขายก็สามารถได้อย่างสะดวก
รวมถึงมีสินค้า(เหรียญ) ให้เทรดมากกว่า 80 เหรียญ ทำให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนเหรียญต่างๆได้หลากหลาย โดยในปีนี้บิทคับก็จะมีสินค้าใหม่ที่เข้ามาซื้อขาย คือ โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (investment token) ซึ่งปัจจุบันมีการหารือกับผู้ออกโทเคนดิจิทัลหลายรายสนใจที่จะนำโทเคนดิจิทัลเข้ามาซื้อขาย
"ปีนี้ที่ตลาดคริปโทเป็นขาลงนั้น ทำให้ เรา และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต่างๆ และใช้โอกาสนี้ในการปรับ หรือเตรียมระบบรองรับการซื้อขาย เพื่อให้ระบบงานต่างๆ มีความแข็งแกร่ง เมื่อตลาดคริปโทกลับมาเป็นขาขึ้นก็จะสามารถรองรับการซื้อขายได้อย่างดี รวมถึงเรามีการออกเหรียญใหม่ๆเพิ่มขึ้น
นายอรรถกฤต กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าหากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ส่งสัญญาณชัดเจนในการหยุดขึ้นดอกเบี้ย เป็นสัญญาณที่ดี เงินเฟ้อทิศทางปรับตัวลดลง ส่งผลให้เม็ดเงินสภาพคล่องในระบบเพิ่มขึ้นหนุนการลงทุนตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล