'สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด' ปรับเป้าราคา 'บิตคอยน์' คาดแตะ 4.2 ล้านบาทในปี 67
ธนาคาร 'สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด' (Standard Chartered) ปรับเป้าราคา 'บิตคอยน์' จาก 100,000 ดอลลาร์ สู่ระดับ120,000 ดอลลาร์ คาดแตะ 4.2 ล้านบาทในปี 67 หลังเหมืองขุดคริปโทอาจสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น
ตามรายงานของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) ผู้ให้บริการทางการเงิน กล่าวว่า ได้มีการปรับเป้าหมายราคาบิตคอยน์ (bitcoin) เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประมาณการราคาในปี 2567 อยู่ที่ 100,000 ดอลลาร์ สู่ระดับ120,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 4.2 ล้านบาท ในเดือนเม.ษ. 2567
และบริษัทคาดว่าราคาของบิตคอยน์จะเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ดอลลาร์ ภายในสิ้นปีนี้ โดยอ้างถึงความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นของเหมืองขุดคริปโทและบิตคอยน์
รายงานยังชี้ให้เห็นถึงความสามารถในการทำกำไรของนักขุดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นอีกกระแสหนึ่งที่อาจกระตุ้นให้ราคาของสกุลเงินดิจิทัลแข็งค่าขึ้น
สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กล่าวว่า เหตุผลในการทำนายราคาที่เพิ่มขึ้นคือ นักขุดที่ขุดบิตคอยน์รายใหม่จะสามารถเพิ่มจำนวนบิตคอยน์ ถึง 900 เหรียญที่ผลิตในแต่ละวันทั่วโลกในไม่ช้า จะต้องขายน้อยลงเพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนของพวกเขา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าไฟฟ้า
เจฟฟ์ เคนดริก (Geoff Kendrick) หัวหน้าฝ่ายวิจัย FX และสินทรัพย์ดิจิทัลของธนาคารกล่าวว่า “เหตุผลก็คือ นักขุดมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอุปทานของบิตคอยน์ที่ขุดใหม่”
เคนดริกประมาณการว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ นักขุดสามารถขายเหรียญที่ขุดใหม่ของพวกเขา 100% แต่หากราคาถึง 50,000 ดอลลาร์ พวกเขาอาจจะขายเพียง 20-30% เท่านั้น
โดย "บิตคอยน์ฮาฟวิ่ง" ในปี 2567 ที่หมายความว่ารางวัลสำหรับการขุด 1 บิตคอยน์ จะลดลงครึ่งหนึ่ง ทำให้บิตอคยน์มีค่ามากขึ้น โดยครั้งสุดท้ายที่เกิดบิตคอยน์ฮาฟวิ่งมีราคาที่ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 69,044 ดอลลาร์