โรงพยาบาลเสมือนจริงกับการมาถึงของ Apple Vision Pro
การมาถึงของ Apple vision pro จะเปลี่ยนแปลงหน้าอุตสาหกรรม และแวดวงหลายวงการไปอย่างสิ้นเชิง หนึ่งในอุตสาหกรรมที่แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างช้า แต่จะค่อยๆเห็นได้ชัดมากขึ้นเร็วกว่าที่คิดคือ ระบบสาธารณสุข
หลังจากโควิด-19 เราได้ค้นพบความจริงหลายประการว่า ระบบการดำเนินงานหลายอย่างในวงการสาธารณสุข ถึงเวลาได้รับการปรับเปลี่ยน และที่จริงแล้วอาจจะพร้อมเปลี่ยนมานานเกินกว่าที่เราคิด ที่เห็นได้ชัดคือ ระบบเทเลเมดิซีนที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว แม้ไม่อาจแทนที่การพบแพทย์โดยตรงได้ทั้งหมด แต่หลายโรงพยาบาลก็ได้เริ่มนำระบบเทเลเมดิซีนมาใช้ให้เกิดประโยชน์ขึ้นจริงกับผู้รับบริการบางประเภทแล้ว
กลุ่มผู้รับบริการที่ได้ประโยชน์คือ ผู้ป่วยนอกที่อาการคงที่ หรือกลุ่มผู้ที่อยากศึกษา และคุ้นเคยกับแพทย์ที่จะทำการรักษาก่อน สิ่งที่จะทำให้ระบบการพบแพทย์ทางไกลหรือออนไลน์เกิดความก้าวหน้ามากขึ้นคือ การมาถึงของ Apple vision pro
โดยสองฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจคือ Immersive environments การเปลี่ยนห้องให้มีสภาพแวดล้อมโดยรอบที่เปลี่ยนแปลงตามความต้องการ หากได้รับการนำมาใช้ และพัฒนา เราสามารถสร้างความเสมือนจริงของการพบแพทย์ทางไกล หรือเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม ลดความกังวลในจิตใจของผู้ป่วยได้ เห็นได้ชัดคือ กลุ่มผู้ป่วยเด็ก ที่จะลดความวิตกกังวล และความกลัวโรงพยาบาลลงได้ หรือผู้รับบริการด้านสุขภาพจิต
อีกหนึ่งฟีเจอร์คือ ระบบ วิดีโอคอลแบบเห็นหน้า ที่จะเพิ่มความสมจริงของเทเลเมดิซีนขึ้นมาอีกระดับ ทำให้การสังเกตอาการของแพทย์ที่มีต่อผู้รับบริการมีความละเอียดมากขึ้น ระบบการดูแลสุขภาพความงาม หรือสุขภาพจิต รวมถึงการประชุมวิชาการระหว่างประเทศก็สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ ลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มประสิทธิภาพการประชุม
แถมอีกหนึ่งฟีเจอร์คือ การดูคอนเทนต์ 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การสอน การจำลอง การทำหัตถการ การให้คำปรึกษา ก็จะสามารถทำได้ และพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
หากประสานรวมกับ Metaverse จะยิ่งสามารถเพิ่มพูนประโยชน์ทางการดูแลสุขภาพได้อีกมากมาย ยกตัวอย่าง เช่น การรวมระบบที่ปรึกษาสุขภาพ ข้อมูล และแผนกเวอร์ชวลต่างๆ ลดระยะการเดินทาง ลดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการบริการให้มากยิ่งขึ้น
ระบบ Virtual medicine training and education จะมีระบบที่สมจริงมากขึ้น ระบบการสอน น่าสนใจ และเห็นภาพมากขึ้น เชื่อมไปถึงการเปรียบเทียบประสิทธิภาพเครื่องมือทางการแพทย์ต่างๆ
ระบบWellness and fitness program จะมีระบบห้องเรียนการออกกำลังการแบบกลุ่ม การสอนการดูแลสุขภาพกายและใจ ระบบการให้คำปรึกษาเรื่องยา แบบสมจริง เห็นภาพเม็ดยา มีเวลาในการค่อยๆ ให้ความรู้และอธิบายวิธีการบริหารยาโดยลดต้นทุนการเรียนการสอน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในระบบการดูแลสุขภาพคือ ความปลอดภัยทั้งของผู้รับบริการ และผู้ให้บริการ ความเป็นส่วนตัวของข้อมูลการรักษา สิทธิของผู้ป่วย การคัดเลือกผู้รับบริการที่เหมาะสมตามประเภท และต้นทุนของเทคโนโลยีและระบบบริการ
ในความเห็นส่วนตัว เราสามารถเริ่มการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ โดยเริ่มจาก
1. การสร้างความตระหนักถึงประโยชน์ และข้อพึงระวัง
2. การให้ความรู้ทั่วไปด้านสุขภาพ
3. การประชุมและการเรียนการสอนเสมือนจริง
4. การประชุมวิชาการ
5. การติดตามผู้ป่วยหรือผู้รับบริการที่อาการคงที่ประสานไปกับการส่งยาแบบดิลิเวอรี
6. ผู้รับบริการที่อยากรู้จักผู้ทำการรักษาก่อน
7. ผู้รับบริการต่างประเทศที่สนใจ
สิ่งสำคัญคือ การเผยแพร่ความรู้ที่ถูกต้อง และมีระบบการติดตามผลการใช้งานที่ดี และสม่ำเสมอ เรากำลัง
อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านของประวัติศาสตร์ยุคสมัยของการดูแลสุขภาพของมนุษย์ การแลกเปลี่ยนความรู้ และส่งเสริมกันและกัน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เราเดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแรง
.
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์