วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เลือกเก็งกำไรรายตัวระหว่างรอปัจจัยบวกใหม่
เงินเฟ้อสหรัฐฯ ส.ค. +0.6% MoM และ +3.7% YoY ใกล้เคียงตลาดคาด ที่ +0.6% MoM และ +3.6% YoY ขณะที่ปรับขึ้นจาก +0.2% MoM และ +3.2% YoY เพิ่มเป็นเดือนที่ 2 ต่อเนื่องกัน
อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาของนักลงทุนและตลาดถือว่าตัวเลขค่อนข้างเป็นไปตามคาดและดูไม่ได้ตกใจ จาก FedWatch Tool ตลาดคาดการณ์โอกาสเฟดตรึงดอกเบี้ยที่ 97% (เพิ่มขึ้นจากวานนี้ที่ 93%) แม้เงินเฟ้อที่สูงจะทำให้ตลาดไม่ปิดความเสี่ยงของการที่เฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง แต่หากตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆไม่ได้ร้อนแรง เราคาดตลาดจะยังไม่ปรับมุมมองเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐฯ ยกเว้นมุมองดอกเบี้ยของกรรมการรายบุคคล (Dot Plot) ที่จะเปิดเผยหลังการประชุม FOMC วันที่ 20 ก.ย.นี้ เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและลดค่าครองชีพมาตามนัด ภาพรวมมาตรการหนุนกำลังซื้อและการบริโภคในประเทศ อย่างไรก็ตามผลกระทบทางตรงระยะสั้น จะแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม 1) ผลกระทบเชิงบวก ในกลุ่มธนาคารและท่องเที่ยว มาจากมาตรการพักชำระหนี้ธุรกิจขนาดกลาง-เล็ก (SME) ซึ่งจะบวกต่อธนาคารใหญ่อย่าง BBL, KBANK และมาตรการฟรีวีซ่า ซึ่งจะบวกต่อ AOT, SKY, SPA, ERW, VRANDA 2) ผลกระทบเชิงลบ จะอยู่ในกลุ่มพลังงาน โดยโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาขายไฟแบบ SPP จะโดนกระทบจากการลดค่า Ft ที่ลงเร็ว ทำให้กำไรในช่วงครึ่งปีหลังนี้จะวูบลง โดยเฉพาะ BGRIM และ GPSC ขณะที่การปรับลดราคาขายปลีกน้ำมัน อาจจะกระทบต่อกำไร PTG และ OR แต่ไม่เปลี่ยนมุมมองการฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 4/66 ทำให้การลงมารอบนี้ เป็นโอกาสทยอยสะสมกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน
ภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดปรับฐานหลุด 1,540 จุด ทำให้เสียโมเมนตัมเชิงบวกระยะสั้น แต่ยังไม่ถึงกับเป็นลบหากไม่หลุด 1,520 จุด กลุ่มที่น่าสนใจช่วงนี้คือ 1) หุ้นขนาดกลางขนาดเล็กที่มีการถือครองต่ำ 2) กลุ่มที่ผลประกอบการครึ่งปีหลังจะออกมาดีหรือดีต่อเนื่อง ได้แก่ พลังงาน ท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์ 3) หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว // หุ้นเด่นที่เราชอบในช่วง ก.ย.-ธ.ค. ได้แก่ PTTEP, TOP, PTG, OR / CPAXT, TIDLOR / AOT, AWC, SPA / CPN, AP
หุ้นแนะนำ: KBANK*, MEGA*, MENA*, VRANDA*
แนวรับ: 1,520 / แนวต้าน : 1,550 จุด
สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ
สหรัฐเผยดัชนี CPI สูงกว่าคาดการณ์ - ดัชนี CPI ทั่วไป (headline CPI) ปรับตัวขึ้น 3.7% ในเดือนส.ค. yoy สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.6% yoy และปรับตัวขึ้น 0.6% mom ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (core CPI) ปรับตัวขึ้น 4.3% ในเดือนส.ค. yoy สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และปรับตัวขึ้น 0.3% mom ในเดือนส.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.2%
IEA เผยตลาดน้ำมันโลกตึงตัว - การขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปคพลัส จนถึงสิ้นปี 2023 จะส่งผลให้ตลาดน้ำมันขาดดุลอย่างมีนัยสำคัญใน 4Q23 ขณะที่ IEA ยังคงคาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะขยายตัวในปีนี้และปีถัดไป ทั้งนี้ สต็อกน้ำมันจะอยู่ในระดับต่ำอย่างมาก ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความผันผวนอีกครั้ง
ลดค่าไฟ-ดีเซลต่ำ30-พักหนี้3ปี - ครม.นัดแรกลดค่าไฟ เหลือ 4.10 บ. ดีเซลต่ำ 30 บ. วีซ่าฟรีรับทัวร์จีน-คาซัคฯ พีระพันธุ์เตรียมลดราคาเบนซินช่วยแท็กซี่-วิน จยย. ช่วยค่าไฟอีกให้คนใช้ ไม่เกิน 150 หน่วย สุดาวรรณฟันธงนักเที่ยวจีน ทะลุเป้า 5 ล้านคน หอค้าปลื้ม รบ.ลดค่าไฟน้ำมัน เชื่อวีซ่าฟรีเงินสะพัด 5 หมื่นล้าน
AMATA หนุนรัฐอัดฉีด – มองครึ่งปีหลังผลงานเด่น คาดยอดขายที่ดินยืนเหนือ 700 ไร่ จากครึ่งแรกปีที่ทำได้ 682 ไร่ ชี้เม็ดเงินลงทุนที่อัดอั้นของต่างชาติยังมีอยู่อีกมาก อวดแบ็กล็อกครึ่งปีกว่า 7.9 พันล้านบาท พร้อมทยอยส่งมอบในช่วงที่เหลือของปีนี้ แนะประชาชนให้โอกาสภาครัฐได้ทำงานอย่างเต็มที่
COCOCO เทรดวันนี้ – ราคา IPO 5.50 บาท โชว์จุดเด่นครึ่งแรกกำไรโต 57% ขานรับดีมานด์กะทิ-น้ำมะพร้าว เติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารย้ำนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ
ประเด็นติดตาม: 14 ก.ย.- ECB Interest Rate Decision, US PPI, Retail Sales/ 15 ก.ย. - CH Industrial Production / 18-24 ก.ย. BOI โรดโชว์พบนักลงทุนสหรัฐฯ /27 ก.ย. ประชุม กนง. ซึ่งธปท.จะมีการปรับลดคาดการณ์ GDP ลง
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)