2 บิ้กคริปโทสหรัฐ ขยายตลาดยุโรป ฝรั่งเศสไฟเขียวไลเซนส์ ปูแผนสู่ผู้นำ Web3
ฝรั่งเศส อนุมัติไลเซนส์ใบอนุญาต “ผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัล” ให้แก่ Circle และ Coinbase
ซึ่งเป็น 2 กระดานคริปโทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐ ซึ่งเป็นการวางแผนสู่ประเทศผู้นำทางเทคโนโลยี และ Web3 หลังจากที่ประธานาธิบดีได้ทุ่มเงินกว่าพันล้านยูโรในการสนับสนุน
หน่วยงานกำกับดูแลของฝรั่งเศส กำลังให้การอนุมัติแก่บริษัทสกุลเงินดิจิทัลต่างประเทศในช่วงใกล้สิ้นสุดปี 2566 โดยได้มอบใบอนุญาตให้แกา 2 กระดานเทรดคริปโทที่อยู่ใน 10 อันดับแรกของอุตสาหกรรมอย่าง Coinbase (คอยน์เบส) และ Circle ผู้ออกเหรียญสเตเบิลคอยน์ (stablecoin) เมื่อวันที่ ในวันที่ 21 ธ.ค.66 ที่ผ่านมา
มีรายงานว่า Coinbase ได้รับการอนุมัติ Virtual Assets Service Provider (VASP) จากหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของฝรั่งเศส Autorité des Marchés Financiers โดยการลงทะเบียน VASP ช่วยให้แน่ใจว่าบริษัทปฏิบัติตามสหภาพยุโรปและกฎระเบียบระหว่างประเทศ
ด้วยใบอนุญาตดังกล่าว ทำให้ Coinbase สามารถดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลและอำนวยความสะดวกในการซื้อขายคริปโทในประเทศได้
นอกจากนี้ เว็บเทรดเพิ่งประกาศบริการการซื้อขาย คริปโทสำหรับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ ทำให้ลูกค้านอกสหรัฐอเมริกาสามารถซื้อขายบิตคอยน์ อีเธอเรียม และสเตเบิลคอยน์ USDC ได้
ถือว่าเป็นก้าวสำคัญของ Coinbase ที่กําลังก้าวเข้าสู่ยุโรปครั้งใหญ่ เนื่องจากเผชิญกับช่วงเชิงลบในปีนี้
ขณะเดียวกันสหภาพยุโรปอยู่ในระหว่างการร่างกฎระเบียบ Markets in Crypto Assets (MiCA) ซึ่งจะสร้างกรอบการทํางานที่กลมกลืนกันสําหรับบริษัทคริปโทในระดับที่มีการควบคุมภายใต้กฏหมาย
ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาครง กําลังพยายามทําให้ประเทศนี้เป็นศูนย์กลางสําหรับเทคโนโลยี เช่น AI และคริปโท โดยให้เงินอุดหนุนและเงินทุนของรัฐจำนวนกว่าพันล้านยูโร
ประเทศได้ทุ่มเงินลงทุน 34 พันล้านยูโร (36.5 พันล้านดอลลาร์) รวมถึงเงินอุดหนุนและเงินทุนของรัฐ ในช่วงห้าปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผน "ฝรั่งเศส 2030" ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อทําให้ประเทศเป็นผู้นําและเรียกว่า "Web3"
ฝรั่งเศสกําลังเล็งเห็นความสำคัญที่คริปโทจะถูกยอมรับมากขึ้น แม้ว่าราคาจะร่วงลงหลังจากการล้มละลายและการล่มสลายหลายครั้ง
จากข้อมูลของบริษัทข้อมูล Toluna ปัจจุบัน 10% ของผู้ใหญ่ชาวฝรั่งเศสเป็นเจ้าของสินทรัพย์คริปโท ในขณะที่ 24% วางแผนที่จะซื้อ ขาย หรือซื้อขายคริปโทในอีก 12 เดือนข้างหน้า
อ้างอิง cnbc