BlackRock-Fidelity บิ้กกองทุนบิตคอยน์ ทำรายได้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน 2 วัน

BlackRock-Fidelity บิ้กกองทุนบิตคอยน์ ทำรายได้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน 2 วัน

2 ผู้จัดการกองทุนเจ้าใหญ่ BlackRock และ Fidelity บิ้กกองทุนบิตคอยน์ ทำรายได้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน 2 วัน ดึงเงินลงทุนมหาศาลสู่ Bitcoin ETF โดย BlackRock เป็นบริษัทที่ทำรายได้มากที่สุด เกือบ 500 ล้านดอลลาร์ และ Bitcoin เสี่ยงเกิดกับภาวะขาดแคลนที่รุนแรง

Keypoint:

  • BlackRock และ Fidelity คือ 2 ผู้จัดการกองทุนเจ้าใหญ่ดึงเงินลงทุนมหาศาลสู่ Bitcoin ETF
  • BlackRock เป็นบริษัทที่ทำรายได้มากที่สุด เกือบ 500 ล้านดอลลาร์
  • Bitcoin อาจจะเกิดกับภาวะขาดแคลนที่รุนแรง

หลังจากที่ Bitcoin ETF เปิดตัวได้ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม ซึ่งทำให้เม็ดเงินเข้ามาในอุตสาหกรรมคริปโท และมูลค่าซื้อขายแตะหลายพันล้านดอลลาร์ในเวลา 2 วัน สะท้อนความต้องการในการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ "บิตคอยน์" โดยบริษัทจัดสินทรัพย์ BlackRock และ Fidelity คือ 2 ผู้จัดการกองทุนเจ้าใหญ่ ได้ดึงดูดเงินลงทุนจำนวนมหาศาลมาสู่ Bitcoin ETF


หลังจากเกิดกับความไม่แน่นอนและการปฏิเสธมานานหลายเดือน ในที่สุด Bitcoin ETF ก็ได้เปิดตัวในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และได้สร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมจำนวนมหาศาลในเวลาเพียง 2 วัน

เอริค บลาชูนาส(Eric Blachunas) นักวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก กล่าวว่า นับตั้งแต่เปิดให้มีการซื้อขาย กองทุน Bitcoin ETF ต่าง ๆ ได้ดึงดูดเงินจากนักลงทุนมาได้เกือบ 1.5 พันล้านดอลลาร์ ผ่านการซื้อขาย 500,000 รายการภายในเวลาเพียง 2 วัน 

BlackRock-Fidelity บิ้กกองทุนบิตคอยน์ ทำรายได้กว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน 2 วัน

โดยบริษัท BlackRock เป็นบริษัทที่ทำรายได้มากที่สุด โดยทำรายได้ไปมากถึง 497.7 ล้านดอลลาร์ รองลงมาเป็นบริษัท Fidelity ที่กวาดรายได้ไป 422 ล้านดอลลาร์ แKeyนวโน้มนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งคาดการณ์ว่า Bitcoin ETF จะสามารถดึงดูดเงินทุนจากได้ประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีแรกที่เปิดให้บริการ

สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ BlackRock คือหลังจากการเปิดตัวในวันแรกปริมาณการซื้อขาย Bitcoin ETF ของทางบริษัท BlackRock ได้พุ่งทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัว ETF ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตามกองทุน ETF ส่วนใหญ่ก็มีเงินทุนไหลเข้ามามากมาย

BlackRock ช้อนซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 11,500 เหรียญภายในเวลา 2 วัน

มีรายงานว่าบริษัท BlackRock ได้ช้อน Bitcoin เพิ่มอีก 11,500 BTC ในช่วงที่ราคาของ Bitcoin ร่วงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาโดยใช้เวลาเพียง 2 วัน ตัวเลขนี้มีความสำคัญ เนื่องจากในแต่ละวันสามารถสร้าง Bitcoin ออกมาได้แค่ 900 BTC เท่านั้น ซึ่งการซื้อ Bitcoin ของบริษัท BlackRock เพียงบริษัทเดียว ถือเป็นจำนวนที่ต้องใช้เวลา 13 วันในการขุด

แลร์รี ฟิงก์ (Larry Fink) CEO ของบริษัท BlackRock กล่าวว่า Bitcoin มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และตอนนี้เขาบอกว่ามันเป็นสินทรัพย์ที่สามารถสร้างมูลค่าขึ้นมาได้เอง

ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา กองทุน Bitcoin ETF ต่าง ๆ ได้ซื้อ Bitcoin รวมกันประมาณ 46,000 BTC ซึ่งหมายความว่ามี Bitcoin จำนวนมหาศาลถูกดึงออกจากระบบ

หากสิ่งนี้ยังเกิดขึ้นต่อไป Bitcoin อาจจะเกิดกับภาวะขาดแคลนที่รุนแรง ซึ่งการซื้อ Bitcoin 46,000 BTC ในเวลา 2 วัน แสดงว่าในแต่ละวันถูกซื้อไป 23,000 BTC ซึ่งมากกว่าปริมาณ Bitcoin ที่ถูกขุดได้ในแต่ละวันถึง 25.5 เท่า การซื้อ Bitcoin เพิ่มของกองทุน ETF ต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงว่า Bitcoin มีความต้องการมากขึ้นอย่างมาก

ค่าฟีสูงลิ่ว กดดันเงินลงทุนไหลออก

ในทางกลับกัน บริษัท Grayscale กลับมีเงินไหลออกมากกว่า 579 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่นักลงทุน Bitcoin ETF หนีออกจาก Grayscale แม้ว่าจะมีประสบการณ์มากมายในวงการการเงินแบบดั้งเดิม แต่หลายบริษัทก็ลังเลที่จะเข้ามาศึกษาอย่างลึกซึ้งในอุตสาหกรรมคริปโท

ก่อนหน้านี้ แลร์รี ฟิงก์ (Larry Fink) CEO ของบริษัท BlackRock มองว่าอุตสาหกรรมนี้มีแต่การหลอกลวง แต่ตอนนี้เขามองว่ามันเป็นประเภทสินทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของศตวรรษที่ 21

บริษัท Grayscale ต่างจากรายอื่นตรงที่เคยเปิดกองทุน Bitcoin Trust มูลค่า 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์มาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งได้เปลี่ยนมาเป็นกองทุน ETF ในภายหลัง อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้นักลงทุนหนีออกจากบริษัทนี้ก็คือ ค่าธรรมเนียมสูงกว่าแห่งอื่นๆที่ 1.5%
ในขณะเดียวกัน บริษัท BlackRock และ Fidelity ซึ่งเป็นบริษัทที่ดึงดูดเงินจากนักลงทุนรวมกันเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ ได้เก็บค่าธรรมเนียมเพียงแค่ 0.2% ซึ่งค่าธรรมเนียมที่น่าสนใจนี้ทำให้นักลงทุนหันมาลงในกับบริษัทเหล่านี้มากขึ้น

อ้างอิง dailycoin  cryptoslate