วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ แกว่งตัวรอปัจจัยใหม่ๆ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ แกว่งตัวรอปัจจัยใหม่ๆ

ติดตามความผันผวนของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ และดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ บรรยากาศลงทุนระยะสั้นไร้ปัจจัยบวกใหม่ นักลงทุนอาจเริ่มให้น้ำหนักกับการเปลี่ยนขั้วการเมืองในสหรัฐฯ ที่จะกระทบต่อหุ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ จากนโยบายที่มีโอกาสเปลี่ยนแปลงไป

ขณะเดียวกันการเมืองฝรั่งเศสจับตาความเสี่ยงการเปลี่ยนขั้วอำนาจหลังการเลือกตั้งรอบ 2 วันที่ 7 ก.ค. อาจทำให้สกุลเงินยูโรผันผวน ทั้งนี้ด้วย Dollar Yield Premium ที่อยู่ในระดับสูง ทำให้เรายังมองค่าเงินสหรัฐฯ จะยังโน้มเอียงในทางแข็งค่า ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงไตรมาส 3/67 นี้

คงมุมมองบวกต่อครึ่งปีหลัง แต่ ก.ค. อาจมีความผันผวนจากผลประกอบการและประเด็นการเมือง ทำให้อาจต้องเลือกหุ้นที่ Defensive มากขึ้นในระยะสั้น เรายังคงมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งหลัง 2567 จากการเบิกจ่ายงบประมาณที่เร่งตัว และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม ก.ค. เป็นช่วงรอยต่อของเศรษฐกิจที่ยังขาดแรงส่ง ทำให้การรายงานผลประกอบการในหุ้นรายตัวในกลุ่มอิงรายได้ภาครัฐฯ อาจอ่อนแอ ประกอบกับความผันผวนจากปัจจัยการเมืองโดยเฉพาะการพิจารณาคดีถอดถอนนายกรัฐมนตรี ทำให้เรามองตลาดระยะสั้นอาจผันผวน แต่กลุ่มที่ผลประกอบการมั่นคง คาดจะเคลื่อนไหวได้กว่า โดยเฉพาะ สื่อสาร, โรงไฟฟ้า และหุ้นอื่นที่มีปัจจัยบวกรายตัว เรามองการปรับลงเป็นโอกาสซื้อ
 

ภาพรวมกลยุทธ์ เลือกเก็งกำไรรายตัว อาจผันผวนจากการรายงานผลประกอบการ แต่คงมุมมองว่าช่วง ก.ค.-ส.ค. เรามอง SET เข้าสู่จุดซื้อที่ดีที่สุดในรอบ 12-18 เดือน ข้างหน้า และด้วย Valuation ของ SET ที่แข็งแกร่งในระดับ 1,300 จุด ประเมินความเสี่ยงของการลงอยู่ที่ระดับ 1,270-1,290 และมองการลงแรงถึงระดับ 1,100-1,200 จุด อยู่ในระดับต่ำ // กลุ่มอาหาร สื่อสาร บรรจุภัณฑ์ มีแนวโน้มช่วงสั้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาด

แนวรับ: 1,270-1,290 / แนวต้าน : 1,310 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

 

หุ้นแนะนำ  (* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ นักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาเข้าซื้อ)

ADVANC* (218) : ผลประกอบการฟื้นตัวตามกำลังซื้อ และรายได้เกษตรกร และอยู่ในช่วงที่มี แนวโน้มถูกปรับประมณการกำไรขึ้น อีกทั้งหุ้นซื้อขายด้วย PER ในโซนต่ำในรอบ 3 ปี  ตัดขาดทุน 207 บาท 

SCGP* (37) : ผลประกอบการอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากอุปสงค์ในสินค้าที่ดีขึ้น และต้นทุนการผลิตที่ต่ำลงบวกต่ออัตรากำไร ตัดขาดทุน 32.50 บาท 

BBGI (10) : ผลประกอบการฟื้นตัวจากธุรกิจไบโอดีเซลล์ และการมีส่วนแบ่งธุรกิจน้ำมันอากาศยานยั่งยืนร่วมกับบางจาก ตัดขาดทุน 6.00 บาท  

OSP (27) : ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง ผลประกอบการมีแนวโน้มได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการบริโภค และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างดิจิทัลวอลเล็ต ตัดขาดทุน 22.50 บาท

 

ประเด็นที่น่าสนใจ 

-    เริ่มใช้มาตรการ Uptick Rule ปริมาณการซื้อขาย Short ลดลงอย่างมากในวันแรก
-    ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐต่ำกว่าคาดในเดือนมิ.ย.
-    ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.
-    คลังฯเผย ฟื้นกองทุนวายุภักษ์อีก 2 เดือนเห็นแน่ 
-    “สมโภชน์” รับมีหุ้น EA ถูก Force Sell แก้ไขปัญหาจบแล้วยังถือหุ้นใหญ่ เดินหน้าธุรกิจ ชี้แจงต่อวันนี้
-    AS เทขายหุ้น 'SABUY' ทำรายการขายหุ้น Big Lot หุ้น SABUY 3วันรวด
-    5 อันดับแรกมูลค่าขายชอร์ตมากสุด DELTA-R, AOT, COM7, BBL, TISCO
-    5 อันดับแรก มูลค่า Short Covering HANA-R, HANA, EA-R, EA, BANPU-R
-    MEB คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 42.00 บาท 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
2 ก.ค. – JOLTs Job Openings/Quits (May)
3 ก.ค. – US ISM Services PMI (June), ศาลรธน. พิจารณาเอกสารเพิ่มเติมคดีก้าวไกล