ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์จัดเก็บหลักฐานการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์จัดเก็บหลักฐานการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล

ก.ล.ต. ปรับเกณฑ์ด้านการจัดเก็บหลักฐานเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเติม เพื่อให้มีข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นปัจจุบัน สำหรับนำมาใช้ในการตรวจสอบและกำกับดูแลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมั่นต่อธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลของไทยมากยิ่งขึ้น มีบังคับตั้งแต่ 16 ก.ค. 67

ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีแนวคิดในการปรับปรุงหลักเกณฑ์การจัดการและการจัดเก็บหลักฐานเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้ ก.ล.ต. มีข้อมูลเพียงพอในการติดตามและตรวจสอบความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นให้กับผู้เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น โดยได้เปิดรับฟังความคิดเห็นไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 ซึ่งผู้แสดงความเห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการและร่างประกาศตามที่เสนอแล้วนั้น ก.ล.ต. จึงออกประกาศ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

(1) ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องจัดเก็บหลักฐานการเก็บรักษาเงินของลูกค้าที่ออกโดยธนาคารผู้รับฝาก และหลักฐานการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลของลูกค้าที่ออกโดยผู้ให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถให้บริการได้ตามกฎหมาย

(2) ในการจัดการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ผู้จัดการเงินทุนต้องจัดเก็บหลักฐานการทำธุรกรรมใด ๆ เกี่ยวกับการจัดการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น หลักฐานเกี่ยวกับการพิจารณาและตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

พร้อมกันนี้ ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องจัดเก็บข้อมูลตามที่กำหนดไว้อย่างน้อย 5 ปี และในช่วง 2 ปีแรกต้องจัดเก็บในลักษณะที่พร้อมให้ ก.ล.ต. เรียกดูหรือตรวจสอบได้ทันที

ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ที่ปรับปรุงดังกล่าวได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2567