ก.ล.ต.ย้ำผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้คัดกรองเปิดบัญชี-ธุรกรรมลูกค้า ป้องกันอาชญากรรมเทคโนโลยี
ก.ล.ต. ส่งหนังสือเวียนย้ำผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติงานของสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) เรื่อง การพิจารณาบัญชีต้องสงสัยว่าถูกใช้ในการกระทำความผิด เพื่อให้การตรวจสอบและทำความรู้จักตัวตนของลูกค้า (KYC) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นช่องทางการฟอกเงิน
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เห็นถึงความสำคัญในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นปัญหาที่ภาครัฐอยู่ระหว่างเร่งแก้ไขและดำเนินการอย่างบูรณาการเพื่อป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย และป้องกันไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพทำธุรกรรมซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2567 ก.ล.ต. ได้ประสานงานกับ TDO และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยมีการจัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (workshop) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 TDO ได้ออกแนวทางปฏิบัติงาน เรื่อง การพิจารณาบัญชีต้องสงสัยว่าถูกใช้ในการกระทำความผิด เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจที่เป็นสมาชิกของ TDO ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติงานในการเฝ้าระวังลูกค้าและธุรกรรมที่อาจเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เนื่องจากการทำความรู้จักตัวตน (KYC) ของลูกค้าและการตรวจสอบธุรกรรมที่ต้องสงสัยของลูกค้าเป็นมาตรการสำคัญที่จะช่วยในการป้องกันไม่ให้กลุ่มมิจฉาชีพสามารถทำธุรกรรมซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นช่องทางถ่ายเททรัพย์สินจากการกระทำความผิด
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ก.ล.ต. จึงได้ออกหนังสือเวียนไปยังผู้ประกอบธุรกิจศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล นายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อให้ดำเนินการปรับใช้แนวทางปฏิบัติงานของ TDO เรื่อง การพิจารณาบัญชีต้องสงสัยว่าถูกใช้ในการกระทำความผิด เพื่อเป็นการสนับสนุนและบูรณาการการดำเนินการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมทั้งสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่อุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย