YLG ชี้ลงทุนทองคำผ่านตลาดฟิวเจอร์ส เพิ่มช่องทางทำกำไร หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย
วายแอลจี แนะลงทุนทองคำผ่านตลาดฟิวเจอร์ส เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไร หลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย ล่าสุดอีก 0.75% และส่งสัญญาณปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในสิ้นปีนี้ มองกรอบทิศทางทองคำในประเทศ เคลื่อนไหว 28,500 - 30,000 เหตุบาทยังมีสัญญาณอ่อนผลกระทบอัตราดอกเบี้ยไทย - สหรัฐต่างกันมากขึ้น
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ราคาทองคำในตลาดโลกยังคงได้รับแรงกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) โดยล่าสุดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ในรอบปี เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐพุ่งขึ้นไปที่ 3.0-3.25%
นอกจากนี้เฟดยังส่งสัญญาณจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 1.25% ในการประชุมที่เหลืออีก 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดสิ้นปีนี้อยู่ที่ 4.25% - 4.50% และสิ้นปีหน้า อยู่ที่ 4.50% - 4.75% ดังนั้นทิศทางราคาทองคำจึงจะได้รับแรงกดดันจากนโยบายดังกล่าว
อย่างไรก็ดีการส่งสัญญาณแนวโน้มดอกเบี้ยดังกล่าว ก็ทำให้นักลงทุนทองคำสามารถปรับรูปแบบการลงทุนให้สอดคล้องไปทิศทางเดียวกันด้วยการลงทุนผ่านตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพราะเป็นการลงทุนที่สามารถทำกำไรได้ทั้งภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง หากนักลงทุนวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและคาดว่าแนวโน้มทิศทางราคาทองคำจะไปในด้านใด ก็สามารถเปิดสถานะการลงทุนได้ทั้งขาขึ้น และขาลง นอกจากนี้ข้อดีของการลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สคือ ใช้เงินลงทุนไม่สูงมาก ด้วยการวางเงินประกันเพียง 5-10% ของมูลค่าสัญญา
โดยวายแอลจีเปิดให้บริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สทั้ง TFEX ของไทย และตลาดฟิวเจอร์สต่างประเทศ โดยปัจจุบัน YLG ได้ร่วมมือกับ CME Group เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่เทรดผ่าน YLG futures สามารถเข้าถึงทุกสินค้าของ CME Group ทุกบริการ เช่น Precious Metal futures ,Oil futures ,Cryptocurrency futures , Forex futures ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งกองทุนสถาบันในการเข้าไปซื้อขายสินค้า พร้อมเชื่อมต่อ Exchange ทั่วทั้งโลกไม่ว่าจะเป็น จีน ฮ่องกง หรือ สิงคโปร์ ทำให้นักลงทุนและนักเก็งกำไรสามารถจัดการกับความเสี่ยง และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ง่ายขึ้น
ส่วนแนวโน้มความเคลื่อนไหวราคาทองคำในระยะสั้นวายแอลจีมองว่าแม้ว่าระยะสั้นราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากประเด็นดอกเบี้ยขาขึ้น แต่นักลงทุนยังสามารถทำกำไรได้ตามรอบ ในกรอบแนวรับ 1,643 - 1,624 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนวต้าน 1,684 - 1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนนักลงทุนที่ต้องการถือยาวนั้นสามารถใช้แนวรับ 1,624 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นจุดเข้าซื้อได้
ส่วนราคาทองคำในประเทศนั้น มองว่าจะยังทรงตัวในกรอบ 28,500 - 30,000 บาทต่อบาททองคำ เนื่องจากสัญญาณค่าเงินบาทยังมีโอกาสอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจัยผลกระทบเรื่องส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยที่ต่างจากสหรัฐมากขึ้น อย่างไรก็ดีแนะจับตาการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย วันที่ 28 ก.ย.นี้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์