‘บอลลูน’ ป่วนตลาด ‘หุ้นจีน’ กูรูมั่นใจกระทบแค่ช่วงสั้น
ปมร้อน ‘บอลลูน’ ป่วนตลาด ‘หุ้นจีน’ ร่วงหนัก หลังนักลงทุนผวากระทบสัมพันธ์สองชาติมหาอำนาจ ด้าน ผู้จัดการกองทุน ย้ำเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด เชื่อผลกระทบแค่ระยะสั้น ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตวานนี้ ปรับตัวลดลง -0.76% และดัชนีฮั่งเส็ง -2.02%
ปมร้อน ‘บอลลูน’ ป่วนตลาด ‘หุ้นจีน’ ร่วงหนัก หลังนักลงทุนผวากระทบสัมพันธ์สองชาติมหาอำนาจ ด้าน ผู้จัดการกองทุน ย้ำเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด เชื่อผลกระทบแค่ระยะสั้น
กลายเป็นประเด็นร้อนระดับโลกที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง หลังสหรัฐตรวจพบ ‘บอลลูนจีน’ บินล้ำเข้ามายังน่านฟ้าของสหรัฐ พร้อมกับกล่าวอ้างว่าเป็นบอลลูนสอดแนม จึงได้ตัดสินใจยิงตกลงมา ท่ามกลางความไม่พอใจเป็นอย่างมากของจีน ที่ออกมาชี้แจงว่า บอลลูนดังกล่าวเป็นบอลลูนตรวจสอบภาพอากาศของบริษัทเอกชน ไม่ได้เป็นบอลลูนสอดแนมแต่อย่างใด
ประเด็นดังกล่าว ความจริงเป็นเช่นไรยังไม่มีใครทราบ แต่ทั่วโลกเกิดความวิตกกังวลขึ้นมาแล้ว ด้วยเกรงว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองยักษ์ใหญ่ทางเศรษฐกิจที่ดูจะเริ่มดีขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กลับต้องย่ำแย่ลงอีกครั้งจากเหตุการณ์ครั้งนี้
โดยวานนี้ (6 ก.พ.66) ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ก็ปรับตัวลดลง มาปิดทำการที่ระดับ 3,238.72 จุด ลดลง 24.71 จุด หรือ -0.76% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็ง ปิดทำการที่ระดับ 21,222.16 จุด ลดลง 438.31 จุด หรือ -2.02%
อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการกองทุนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่างเฝ้าระวังถืงสถานการณ์ดังกล่าวเช่นกัน แต่ก็วิเคราะห์ว่า น่าจะแค่กระทบช่วงระยะสั้น ๆ เท่านั้น
นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนกลยุทธ์การลงทุน บลจ.ทหารไทยอีสท์สปริง กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เฝ้าระวังและติดตามเหตุการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพราะต้องการความชัดเจนว่า เป็นการจงใจที่จะปล่อยบอลลูนเข้าไปสอดแนมจริงหรือไม่ แม้ว่าทางการจีนจะออกมาชี้แจงว่า เป็นแค่ของภาคเอกชนเท่านั้นไม่ใช่บอลลูนสอดแนม แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีมาตรการอะไรที่ออกมาอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ในภาพรวมของตลาดการลงทุน จากสถานการณ์ดังกล่าวมองว่า เป็นผลกระทบแค่ช่วงระยะสั้น 1 - 2 วันเท่านั้น นักลงทุนที่เล่นเก็งกำไรขอให้ชะลอการลงทุนไปก่อน ส่วนนักลงทุนที่เน้นลงทุนระยะกลาง ถึงระยะยาว ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าไปเก็บสะสมได้
อย่างไรก็ตาม การลงทุนระยะกลาง - ระยะยาว สถานการณ์จีนกับสหรัฐถือว่า ยังไม่ใช่ใจความสำคัญที่จะทำให้กระทบต่อการลงทุน และคาดว่าจะไม่ร้ายแรงลากยาวเท่ารัสเซีย - ยูเครน เพราะสิ่งที่สำคัญขณะนี้คือเรื่องปัจจัยพื้นฐานมากกว่า ที่มองว่า เงินเฟ้อสหรัฐเริ่มลดลงมา จีดีพีสหรัฐที่ประกาศออกมาเริ่มดีขึ้น น่าจะให้น้ำหนักถึงระยะกลาง - ยาวมากกว่า
ขณะที่ฝั่งเอเชียบรรยากาศของการลงทุนหลังจากที่ปรับตัวลงมาบ้าง หลังจากวันศุกร์ (3 ก.พ.66) ที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้มาจากกรณีบอลลูนเป็นหลัก แต่เป็นเรื่องของนโยบายประเทศจีนต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นมาเร็วและแรง เลยเริ่มเห็นการขายทำกำไรออกมา จึงมีการปรับย่อลงมาเล็ก ๆ เท่านั้น
นายนธีร์ ใบเจริญ รองผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์การลงทุนและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ไพน์ เวลท์ โซลูชั่น จำกัด บริษัทในเครือ บลจ.วรรณ บอกเพิ่มเติมว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นผลกระทบระยะสั้น เพราะถ้าดูในภาพรวมของเศรษฐกิจจีนยังมีความน่าสนใจมากกว่าฝั่งของสหรัฐ หลังจากที่ประชาชนจีนได้รับวัคซีนโควิด-19 และเปิดประเทศ
ขณะที่สิ่งที่ต้องจับตาดู คือ เดือนมีนาคม โดยเฉพาะนโยบายด้านเศรษฐกิจของจีน กับคณะกรรมการชุดใหม่ด้านเศรษฐกิจ ที่วันนี้เริ่มเห็นสัญญาณบางอย่าง เช่นทางการจีนได้ออกมาตรการปล่อยกู้ให้กับเอสเอ็มอี และสินเชื่อบุคคลในอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำมาก จึงเห็นได้ว่า จีนเริ่มมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศออกมาแล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศจีน (บีโอซี) และธนาคารไชน่า คอนสตรัคชัน (ซีซีบี) ธนาคารพาณิชย์รายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ เสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อสำหรับรายย่อยด้วยอัตราพิเศษ เพื่อร่วมกับรัฐบาลสร้างรากฐานเศรษฐกิจให้กลับมามั่นคงและยิ่งใหญ่เช่นเดิม
แพ็กเกจกระตุ้นดังกล่าวประกอบด้วยการปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และให้อินเซนทีฟในรูปแบบบัตรกำนัลสำหรับซื้อสินค้าในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น