“พิสิฐ ลี้อาธรรม” ประชาธิปัตย์ วาง 3 เส้นทาง อัดฉีดเงิน 1 ล้านล้าน กระตุ้นศก.โต

“พิสิฐ ลี้อาธรรม” ประชาธิปัตย์ วาง 3 เส้นทาง อัดฉีดเงิน 1 ล้านล้าน กระตุ้นศก.โต

“พิสิฐ ลี้อาธรรม” พรรคประชาธิปัตย์ เปิด 3 แนวทางดึงเงิน 1 ล้านล้าน ปลดหนี้ -กระตุ้นจีดีพีฟื้น กลับมาโตมากกว่า 5-7%  จากปัจจุบันโตต่ำศักยภาพและต่ำสุดในอาเซียนที่ 1-2% ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง- สร้างระบบบำนาญภาคประชาชน พร้อมกับ 3 เหตุทีคนไทยต้องเลือก

นายพิสิฐ  ลี้อาธรรม ประธานนโยบาย พรรคประชาธิปัตย์  กล่าวว่า นโยบายของพรรคที่จะมุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย  3 ส่วน วงเงินไม่เกิน 1 ล้านล้านบาท  คือ  1.  ระดับรากหญ้า วงเงินรวมไม่เกิน 2 แสนล้านบาท ผ่านระบบใหม่ “ธนาคารหมู่บ้าน” มีกฎหมายรองรับ หมู่บ้านละ 2 ล้านบาท 

2. กองทุนบำเหน็จบาญข้าราชการ (กบข.) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ วงเงินรวมกันราว 3 แสนล้านนบาท  โดยทั้งสองกองทุน มีสมาชิกรวมกันกว่า 4 ล้านกว่าราย มีเงินรวมไม่ต่ำกว่า 2.6 ล้านล้านบาท  แต่วงเงินลงทุนดังกล่าวที่ผ่านมาถูกล็อกไว้เฉพาะตราสารทางการเงินเท่านั้นและมีความพยายามนำเงินไปลงทุนต่างประเทศ มีความเสี่ยงสูง

มองว่า จำเป็นต้องปลดล็อดวงเงินลงทุนของสมาชิกข้าราชการ  1.2  ล้านคน และสมาชิกเจ้าของเงินสำรองเลี้ยงชีพ  3 ล้านคน สามารถนำเงินลงทุนในกองทุนไปซื้อบ้าน ลดหนี้บ้าน ผ่อนบ้าน วางดาวน์บ้าน ช่วยลดภาระหนี้บ้านให้หมดไป ซึ่งเป็นภาระหนี้ก้อนใหญ่ที่สุด ทางธปท. ระบุว่า หนี้บ้านมีสัดส่วนสูงถึง 90% ของจีดีพี  

3.เงินนอกประมาณ วงเงิน 3 แสนกว่า ล้านบาท ที่สามารถเปิดช่องนำเงินส่วนนี้ มาจัดตั้งกองทุนสนับสนุนเอสเอ็มอี  ผ่านระบบธนาคารชักชวนเอสเอ็มอีเพิ่มทุนเป็นหุ้น และกองทุนนี้จะเข้าไปถือหุ้น สัญญาว่าจะคืนให้เมื่อมีเงินมาซื้อคืนไป  โดยจะไม่เข้าไปแทรกแซง  

สำหรับวงเงินทั้ง  3 ส่วนนี้  ราว 1 ล้านล้านบาท นี้ไม่สร้างหนี้สาธารณและ ไม่เป็นภาระรัฐบาลมากเกินไป แต่สร้างแต้มต่อรายเล็กและรายใหญ่  กระตุ้นเศรษกฐกิจขไทย จีดีพีกลับมาขยายตัวระดับ 5-7%   ไม่ใช่โต 3-4% ยังต่ำกว่าศักยภาพหรือ 1-2% โตต่ำสุดในอาเซียน  

และที่สำคัญ มองว่า จำเป็นต้องปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง และปรับโครงสร้างสังคมรองรับความต้องการของประชาชน โดยในขณะนี้มีความต้องการเรื่องบำนาญภาคประชาชน ทางพรรคพร้อมให้เศรษฐกิจไทยฟื้นและขับเคลื่อนต่อไปได้ ในอนาคต


“ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีความเสียหายมากไม่ต่ำกว่า 3 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไป โดยทางธปท.แนะว่ารัฐบาลต้องใส่เงินเข้าไป 1ล้านล้านบาท และขึ้นภาษีแวตเป็น 10% จาก 7% แต่ที่ผ่านมาไม่สามารถทำได้เพราะหนี้สาธาณะมากแล้ว มองว่า หลุมรายได้กระทบเศรษฐกิจมหาศาล ตอนนี้เราเป็นห่วงธุรกิจขนาดกลางและเล็ก โดนเทคโอเวอร์ ต่างชาติซื้อ กำลังพยายามปลดหนี้และพักหนี้ แม้ว่าช่วงที่ผ่านมา ธปท.ให้เงินกู้เพิ่มสภาพคล่อง เอสเอ็มอี ถึง 5 แสนล้านบาท แต่ใช้ไปเพียง 1 แสนล้านบาท เพราะแบงก์พาณิชย์ไม่สามารถปล่อยกู้ได้มากเพราะกังวลหนี้ที่เกิดขึ้น ปัญหาเหล่าสนี้ต้องเร่งแก้”  

นายพิสิฐ กล่าวอีกว่า 3 เหตุที่ประชาชนต้องเลือกพรรคเรา คือ 1.แนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ ยืนหยัดทำงานด้วยความสุจริต มีท่านชวน หลีภัย เป็นต้นแบบของการปฏิบัติตัวเป็นนักการเมืองที่ดี   

ขณะเดียวกัน ทำให้ประเทศไทยมีความประชาธิปไตย ยืดหยัด แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 ทุกมาตรา ยกเว้นมาตรา 112 เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์  ไม่เปิดทางให้ลบลู่พระมหากษัตริย์ แต่จะเปิดทางให้มีการกระจายอำนาจมากขึ้น ให้ประชาชนมีบทบาทในทุกด้านมากขึ้นเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน 

2.หัวหน้าพรรค “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” สมัยเคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  ผลักด้านยอดการส่งออกเป็นประวัติการณ์ ถึง 10 ล้านล้านบาท ดึงชาติมหาอำนาจมาทำการค้า และ คว่ำหวอดกับทางของทุกกระทรวง มีคุณสมมัติพร้อมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ที่จะดูแลฟื้นประเทศไทย 

และสุดท้าย 3. พรรคมีนโยบายที่จับต้องได้ เช่น มีนโยบาย 1 ล้านล้านบาท ตามที่ธปท. เสนอ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจไทยฟื้น จะทำให้ ตลาดการลงทุนและตลาดทุนไทย จะเป็นที่ต้องการของต่างประเทศมากขึ้น และจะได้เห็นบทบาทของตลาดทุนไทยทำหน้าที่มากกว่านี้อย่างแน่นอน