กองทุน ชู'หุ้นไทยมิดสมอล'เด่น รับศก.ฟื้น -รีเทิร์นโต
“มอร์นิ่งสตาร์” เผยไตรมาสแรกปี 66 เม็ดเงินไหลเข้า "กองทุนหุ้นไทยกลาง-เล็ก" รับอานิสงส์เศรษฐกิจไทยฟื้น กลุ่มท่องเที่ยว-บริโภค เด่น ยีลด์ย้อนหลัง 3 ปี บวกถึง 11.8% “บลจ.อเบอร์ดีน” ชี้ไตรมาส 2 จังหวะเข้าได้ คัดหุ้นรายตัวกลุ่มบริโภคเด่น ไร้ผลกระทบเศรษฐกิจโลกถดถอย
นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ช (ประเทศไทย) กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 กลุ่มกองทุนหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็ก ที่เป็นกลุ่มกองทุนทั่วไปมีทิศทางเป็นเงินไหลเข้า 425 ล้านบาท แต่ภาพรวมช่วงไตรมาสแรกนั้น มีเงินไหลออกสุทธิกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้มาจากการขายกองทุน LTF ที่ครบกำหนดเป็นหลัก ทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกลุ่มลดลงมาอยู่ที่ 62,000 ล้านบาท หรือลดลงราว 4% จากสิ้นปีที่ผ่านมา (ข้อมูล ณ 31 มี.ค. 2566)
โดยมีผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ -7.0% เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นไทย โดย SET TR อยู่ที่ -6.5% ส่วนผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -10.4% ขณะที่ย้อนหลัง 3 ปี ยังให้ผลตอบแทนเป็นบวกอยู่ที่ 11.8% (ข้อมูล ณ 25 เม.ย. 2566)
อย่างไรก็ตาม มองว่าการลงทุนหุ้นไทยในปีนี้ ยังมีปัจจัยหนุนเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและการบริโภคที่ฟื้นตัว แต่ยังมีแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก เช่น เศรษฐกิจโลกจากดอกเบี้ยที่ปรับขึ้น รวมทั้งสภาพคล่องที่ลดลงไปจากช่วงก่อนหน้า ซึ่งจะกระทบการส่งออกของไทยด้วยเช่นกัน
ดังนั้น แนวโน้มการลงทุนในหุ้นไทยขนาดกลาง-เล็กนั้น ยังจะมีความผันผวนมากกว่าตลาดโดยรวม แนะนำนักลงทุน ยังควรพิจารณาความเสี่ยงนี้ในการจัดพอร์ตการลงทุนด้วย
นายพงศ์ธาริน ทรัพยานนท์ Head of Fixed Income and Asset Allocation บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปีนี้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดี คาดเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวต่อเนื่อง ขณะที่หลายประเทศกำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยจีดีพีปีนี้เติบโต 3.6% จากปีก่อนที่ 3.3% จากแรงส่งหลัก คือภาคการท่องเที่ยวปีนี้ที่คาดแตะ 25-28 ล้านคน ซึ่งย่อมส่งผลดีต่อการบริโภคในประเทศ และการลงทุนภาคเอกชน แนะนำลงทุนในหุ้นไทยขนาดกลางและเล็ก ที่จะได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจไทยที่เติบโตต่อเนื่อง และมักไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกถดถอย
ด้านผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ต้นปี หากพิจารณากองทุนเปิดอเบอร์ดีน สมอล-มิดแค็พ (ABSM) อยู่ที่ 2.42% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 0.28% และย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 59.63% ซึ่งผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี เป็นอันดับ 1 ของกลุ่มกองทุนหุ้นไทย จากการจัดพอร์ตที่เป็น High conviction ลงทุนในหุ้นราว 20-25 ตัว เน้นกลยุทธ์คัดหุ้นรายตัวและเน้นลงทุนธุรกิจมีโอกาสเติบโตสูง ราคาไม่แพง มีสภาพคล่องเหมาะสมกับการลงทุน