3 เหตุผล ทำไมควรมีดัชนี Nasdaq 100 ในพอร์ตการลงทุน
Nasdaq 100 เป็นหนึ่งดัชนีหุ้นขนาดใหญ่ที่สำคัญ และทั่วโลกรู้จักกันดี บทความนี้ชวนเปิด 3 เหตุผล ทำไมดัชนีหุ้นดังกล่าว ถึงเป็นทางเลือกน่าสนใจที่ควรจะมีในพอร์ตการลงทุน
หนึ่งในดัชนีหลักทรัพย์สำคัญของ ตลาดหุ้นสหรัฐ ที่นักลงทุนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีคือ ดัชนี Nasdaq 100 (NDX) ซึ่งสะท้อนผลตอบแทนของบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) สูงที่สุด 100 อันดับแรกของ Nasdaq Stock Market ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์ที่มี Market Cap สูงสุดอันดับ 2 ของโลก รองจาก New York Stock Exchange
ทั้งนี้ ดัชนี Nasdaq 100 เป็นหนึ่งในดัชนีที่มีความสำคัญและให้ผลตอบแทนโดดเด่นในระยะที่ผ่านมา โดยในช่วงต่อจากนี้ยังคงมีโอกาสที่ผลตอบแทนของดัชนี Nasdaq 100 จะยังคงสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีต่อเนื่องจาก 3 เหตุผลหลัก คือ 1. หุ้นในดัชนีส่วนใหญ่ เป็นบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการเติบโต 2. ภาพรวมของเศรษฐกิจ อย่างท่าทีของ ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED ที่มีแนวโน้มยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น และ 3. ผลตอบแทนของดัชนีมีโอกาสได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีในยุคถัดไป
ดัชนีประกอบด้วยหุ้นที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรมระดับโลก โดยเฉพาะในกลุ่มเทคโนโลยี
ดัชนี Nasdaq 100 ประกอบด้วยหุ้น Growth ขนาดใหญ่ โดยมากกว่าครึ่ง เป็นบริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีที่มีความสำคัญระดับโลกและเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนอย่าง Apple, Microsoft, Amazon, Meta Platforms, Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google, Netflix และ Tesla รวมถึงบริษัทที่ทำธุรกิจชิปประมวลผลอย่าง Nvidia อีกทั้งยังมีบริษัทในกลุ่มบริโภคอย่าง Pepsi และ Starbucks, ธุรกิจสุขภาพอย่างกลุ่มไบโอเทค เช่น Moderna, Biogen โดยในดัชนี Nasdaq 100 จะไม่มีบริษัทในกลุ่มการเงินรวมอยู่ด้วย
โดยในช่วงที่ผ่านมา บรรดาบริษัทเทคโนโลยีสามารถเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สนับสนุนจากหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีโดยมีวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 เป็นตัวเร่ง ส่งผลให้ผู้คนหันมาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น สะท้อนจากผลการดำเนินงานของบริษัทที่เติบโตอย่างมีนัย ประกอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ (QE) และการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ มีส่วนให้เงินทุนไหลเข้า ตลาดหลักทรัพย์ โดยเฉพาะในกลุ่มหุ้น Growth สะท้อนในผลตอบแทนของดัชนี Nasdaq 100 ที่ปรับเพิ่มขึ้นราว 100% ใน 5 ปีที่ผ่านมา และขึ้นไปแตะระดับสูงสุดเมื่อปลายปี 2021
ทั้งนี้ ในไตรมาสล่าสุดบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Apple, Microsoft, Alphabet และ Amazon Meta Platform ประกาศผลการดำเนินงานดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด แม้ว่าหลายบริษัทจะคาดการณ์รายได้ในไตรมาสถัดไปชะลอลง เพราะมีส่วนจากภาวะเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณถดถอยและฐานเปรียบเทียบที่สูงในปีก่อนหน้า แต่ปัจจัยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่งและเป็นบริษัทที่มีความมั่นคง
FED ใกล้หยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ย เป็นผลดีต่อตลาดหุ้น
แม้ว่าที่ผ่านมา FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างรวดเร็ว ภายหลังสถานการณ์ Covid-19 เริ่มคลี่คลาย เพื่อที่จะควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งมีส่วนกดดันตลาดหุ้นอย่างหนัก โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่ม Growth ซึ่งการประชุม FED ครั้งล่าสุดเมื่อต้นเดือน พ.ค. ซึ่งมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีที่ 5.00 - 5.25%
อย่างไรก็ดี ตลาดประเมินว่ามีโอกาสมากกว่า 90% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไปในเดือน มิ.ย. และมีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถึง 3 ครั้ง ในครึ่งปีหลังจากเงินเฟ้อที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอลง ซึ่งในระยะสั้นตลาดหุ้นอาจปรับขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว สอดคล้องกับผลตอบแทนเฉลี่ย 1 ปีในอดีตของดัชนี Nasdaq หลัง FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย ซึ่งอยู่ที่ 11.5% อีกทั้งเริ่มเห็นการปรับเพิ่มประมาณการบริษัทในดัชนี Nasdaq 100 และระดับ P/E ยังคงอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก
ดัชนี Nasdaq มักปรับขึ้นหลัง FED ขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย
ภาพรวมผลตอบแทนของดัชนีมีโอกาสได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีในยุคถัดไป
ในระยะยาวภาพรวมผลตอบแทนของดัชนี Nasdaq 100 มีโอกาสที่จะปรับขึ้นจากเทคโนโลยีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนในอนาคต จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่อยู่ในดัชนี อย่างเทคโนโลยี AI Chatbot ที่กำลังถูกพัฒนาโดย Microsoft อย่าง Chat GPT และ Alphabet หรือ Google อย่าง Bard AI รวมถึง Nvidia ซึ่งผลิตชิปประมวลผลสำหรับเทคโนโลยี AI ซึ่งคาดว่าจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงาน หรือ เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Virtual Reality (VR) เพื่อเชื่อมต่อโลกเสมือนจริงอย่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์แว่น VR อย่าง Oculus Quest ของ Meta Platform ซึ่งเบื้องต้นเพื่อเสริมประสบการณ์การเล่นเกม แต่สามารถต่อยอดในภาคธุรกิจอย่างนำเสนอสินค้าต่างๆ ได้ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งกำลังเร่งพัฒนาโดย Tesla เป็นต้น
จากเหตุผลหลัก 3 ประการ จะเห็นได้ว่าดัชนี Nasdaq 100 ยังคงมีปัจจัยสนับสนุนทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงบริษัทที่อยู่ในดัชนีก็ถือเป็นบริษัทขนาดใหญ่ระดับโลก และเป็นที่รู้จักและคุ้นเคยอย่างดี ซึ่งการลงทุนในดัชนี Nasdaq 100 ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่ควรจะมีในพอร์ตการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
ที่มา: Bloomberg, Goldman Sachs, CNBC และ CME Group
ข้อมูล บทความ บทวิเคราะห์และการคาดหมาย รวมทั้งการแสดงความคิดเห็นทั้งหลายที่ปรากฏอยู่ในรายงานฉบับนี้ทำขึ้นบนพื้นฐานของแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดที่ได้รับมาและพิจารณาแล้วเห็นว่า น่าเชื่อถือ แต่ทั้งนี้ไม่อาจรับรองความถูกต้อง ความสมบูรณ์ แท้จริงของข้อมูลดังกล่าว ความเห็นที่แสดงไว้ในรายงานฉบับนี้ได้มาจากการพิจารณาโดยเหมาะสมและรอบคอบแล้ว และอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งล่วงหน้าแต่อย่างใด บทความ บทวิเคราะห์ และการคาดหมายทั้งหลายที่ปรากฏ อยู่ในรายงานฉบับนี้เป็นการนำไปใช้โดยผู้ใช้ยอมรับความเสี่ยงและเป็นดุลยพินิจของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บลจ.ทิสโก้ หรือ TISCO Contact Center โทร. 0 2633 6000 กด 4, 0 2080 6000 กด 4 และ tiscoasset หรือ แอปพลิเคชัน TISCO My Funds