ต่างชาติเทขายบอนด์ 3 วัน 3 หมื่นล้าน หลังดอลลาร์แข็ง บาทอ่อน

      นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาขายสุทธิในตลาดบอนด์ค่อนข้างมากในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา โดยมียอดขายสุทธิรวมกว่า 30,322 ล้านบาท แบ่งเป็น การขายสุทธิในวันที่ 17 พ.ค. รวมกว่า 16,849 ล้านบาท

         ซึ่งเป็นยอดขายสูงสุดในรอบ 6 ปี , วันที่ 18 พ.ค. ขายสุทธิรวมกว่า 3,685 ล้านบาท และวันนี้(19พ.ค.) ขายสุทธิอีกราว 9,788 ล้านบาท

       อย่างไรก็ตาม หากนับตั้งแต่ต้นเดือนพ.ค.ถึงปัจจุบัน พบว่า นักลงทุนกลุ่มนี้ยังมียอดซื้อสุทธิในตลาดบอนด์ไทยรวมกว่า 44,093 ล้านบาท  

      นาวสาวอริยา ติรณประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า แรงขายสุทธิในตลาดบอนด์ของนักลงทุนต่างชาติช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นการขายในบอนด์ระยะสั้นต่ำกว่า 3 ปี เกือบทั้งหมด จึงน่าจะเป็นการขายเพื่อทำกำไรระยะสั้น หลังจากก่อนหน้าที่เข้ามาซื้อสุทธิค่อนข้างมาก 

      “ก่อนหน้านี้นักลงทุนต่างชาติได้เข้ามาเก็งกำไรในบอนด์ระยะสั้น เพราะมองว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะได้อานิสงส์เชิงบวกจากการท่องเที่ยวที่เริ่มกลับมา จึงมองว่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า แต่หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณเชิงบวก ทำให้นักลงทุนมองว่า มีโอกาสที่เฟด(ธนาคารกลางสหรัฐ) จะยังขึ้นดอกเบี้ยได้อีก เงินดอลลาร์ก็เริ่มกลับมาแข็งค่า ทำให้เงินบาทอ่อนลง ก็เลยมีแรงขายทำกำไรในตลาดบอนด์ออกมา”
 

     สำหรับประเด็นเรื่องการเมืองในประเทศนั้น เชื่อว่าไม่ได้มีผลมากนัก โดยแรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ น่าจะเป็นผลจากประเด็นค่าเงินดอลลาร์มากกว่า