‘เครดิตบูโร’ เปิด ‘หนี้เน่า’ ไตรมาส2 ทะลุ1ล้านล้าน หนี้รถยนต์พุ่ง 18%
เครดิตบูโร เปิดข้อมูลหนี้เสีย ไตรมาส2 พุ่งทะลุ1ล้านล้าน จากไตรมาสแรกที่ 9.5แสนล้าน คาดหนี้เสียเพิ่มต่อตัวต่อเนื่องหลังจากนี้ จากเศรษฐกิจฟื้นตัวไม่เต็มที่ ห่วงหนี้เสียรถยนต์พุ่ง 2แสนล้าน โต 18%
'สุรพล โอภาสเสถียร’ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (เครดิตบูโร) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับ หนี้เสีย, หนี้มีปัญหา, หนี้ NPLs, หนี้ปรับโครงสร้าง
โดย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2566 จากการประมวลผลจากฐานข้อมูลสถิติที่เอาตัวตนออกไปแล้วของเครดิตบูโรพบข้อเท็จจริงว่า หนี้ครัวเรือนไทยทั้งก้อนหลังการปรับปรุงข้อมูลโดยธปท. เรามีตัวเลขอยู่ที่ 15.96ล้านล้านบาทคิดเป็น 90.6%ของ GDP ที่สะท้อนว่าเศรษฐกิจของเรามีปัญหาในเรื่องนี้
'เรามีปัญหาแล้ว เรามีปัญหาอยู่เรามีปัญหาต่อ(อีกซักพัก) เรายังออกจากกับดักตรงนี้ไม่ได้ในเวลานี้'
2. ตัวเลขหนี้ครัวเรือนไทย 13.45ล้านล้านบาทจัดเก็บอยู่ในระบบของเครดิตบูโรครับ ครอบคลุม 32ล้านลูกหนี้ที่เป็นหนี้กับสถาบันการเงินไทยกว่า 135แห่ง
หนี้เสียไปแล้วรอการแก้ไขในตอนนี้กลับมาแตะระดับ 1ล้านล้านบาทอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2566 ที่ระดับ 1.03ล้านล้านบาทคิดเป็น 7.7% เมื่อไตรมาส 1ปี 2566 มันอยู่ที่ 9.5แสนล้านบาทครับ คำถามคือมันจะไปต่อหรือไม่ คำตอบคือมันต้องไปต่อแน่ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจแบบยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่และทั่วถึง
ประกอบกับจะมีการชักคืนมาตรการช่วยเหลือออกตามแผน แล้วกลับไปใช้มาตรการตามปกติเดิมมารองรับ ตามการคาดการณ์จะไม่ไหลมาแบบรุนแรง แต่มีโอกาสเพิ่มแน่ๆ ท่านที่สนใจพิจารณาได้จากกราฟสีแดงที่ปรากฎในภาพด้านล่างนะครับ
หนี้ตัวที่สองคือหนี้เสียที่เอาไปปรับโครงสร้าง เอาไปซ่อม เพื่อให้กลับมาเป็นหนี้ดี จ่ายได้ ตรงนี้มีจำนวน 9.8แสนล้านบาทครับ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาที่อยู่ที่ระดับ 8แสนล้านบาท
แน่นอนว่ามาจากการเร่งเข้าไปช่วยเหลือ, ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ตามมาตรการที่ออกแบบมาโดยธปท.
ทุกท่านที่สนใจดูได้จากเส้นสีดำนะครับ ดูว่ากราฟมันเชิดหัวขึ้น ถ้าปรับแล้วรอดก็เป็นหนี้ดี, ถ้าปรับแล้วทำไม่ได้ ยังจ่ายไม่ได้ก็ต้องปรับอีกหรือปล่อยไหลเป็นหนี้เสีย
3. ไส้ในของหนี้ที่เสียไปแล้วหรือหนี้ NPLs ประกอบด้วย หนี้กู้ซื้อรถยนต์เกือบ 2แสนล้านบาท หนี้กู้ซื้อบ้าน ที่อยู่อาศัย 1.8แสนล้านบาท หนี้ Ploan 2.5แสนล้านบาท บัตรเครดิต 5.6หมื่นล้านบาท หนี้เกษตร 7.2หมื่นล้านบาท เป็นต้น ที่น่าสังเกตคือหนี้กู้มาซื้อรถยนต์นั้นมันเพิ่มขึ้นจากกลางปีที่แล้ว มิถุนายน 2565 สูงถึง 18% อันนี้ต้องยอมรับว่ากลิ่นไม่ค่อยดี
แม้ว่าทุกๆคนกำลังรอกลิ่นแห่งความเจริญงอกงามทางเศรษฐกิจในอนาคตตามที่แต่ละคนวาดหวังแต่กลิ่นแห่งความเป็นจริงวันนี้และในระยะอันใกล้มันส่งผ่านตัวเลขออกมาแบบทำให้ไม่สบายใจ ไม่สบายเนื้อสบายตัวเอาเสียเลยในเวลานี้
เส้นกราฟสีเหลืองคือหนี้ที่กำลังจะเสีย หนี้กล่าวถึงเป็นพิเศษ หนี้ SM กราฟปักหัวลงจาก 6แสนล้านบาท มาเป็น 4.75แสนล้านบาท พระเอกยังคงเป็นหนี้กู้มาซื้อรถยนต์นะครับ 2แสนล้านบาท
หนี้เสียต้องเร่งแก้ไข เริ่มต้นได้อย่างไรให้ยั่งยืน มาตรการที่ช่วยให้ยืน จะต้องคืนในปลายปี แล้วชีวีตจะเดินไปอย่างไร