ตลาดค้าบ้านจีน ทรุดหนัก แม้รัฐบาลผ่อนปรนมากขึ้น นักลงทุนกังวลทางการ กลับลำ

ตลาดค้าบ้านจีน ทรุดหนัก แม้รัฐบาลผ่อนปรนมากขึ้น นักลงทุนกังวลทางการ กลับลำ

ตลาดค้าบ้านจีนซบเซาหนัก แม้ประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” จะยกเลิกคำพูดที่ว่า “บ้านไม่ได้มีไว้เก็งกำไร” ในการประชุมปูลิตบูโรในเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา เหตุนักลงทุนอสังหาฯ กังวลทางการจีนกลับลำเข้มงวดในภาคส่วนดังกล่าวอีก 

สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) รายงานวันนี้ (10 ส.ค.) ว่า เคท เหริน (Kate Ren) นักธุรกิจหญิงชาวเซี่ยงไฮ้เคยหวังว่าหลังจากผู้นำจีนถอนสโลแกน 

"บ้านมีไว้อยู่อาศัย ไม่ใช่ไว้เก็งกำไร" 

ออกจากความเชื่อในการกำหนดนโยบายของประเทศเมื่อเดือนก่อน แต่ท้ายที่สุดเธอก็ไม่ได้รับโทรศัพท์จากผู้ซื้อแม้แต่สายเดียว

“ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปอย่างที่ฉันหวังไว้” เหรินเจ้าของอพาร์ตเมนต์ 6 ห้องและอยู่ในช่วงพยายามขายสองห้องสุดท้ายกล่าว พร้อมเสริมว่า 

"วันเวลาอันรุ่งโรจน์ของการทำกำไรทันทีหลังการซื้อหมดลง"

ในช่วงที่ผ่านมา ผู้นำระดับสูงของจีนกล่าววลีอันโด่งดังเจาะจงไปที่การเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยเป็นครั้งแรกในการประชุมประจำปีเกี่ยวกับเศรษฐกิจในเดือน ธ.ค. 2559 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ “กฎระเบียบที่เข้มงวด” มากขึ้นในตลาดอสังหาริมทรัพย์ซึ่งนำไปสู่การแตกของฟองสบู่ในปี 2564

บรรดานักวิเคราะห์จำนวนมาก เห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า การลบถ้อยคำในการห้ามการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ออกจากเอกสารสำคัญของทางการจีนเมื่อเดือน “เป็นสัญญาณสำคัญ” ที่ผู้กำหนดนโยบายจะผ่อนคลายการควบคุมเหล่านั้นบางส่วนเพื่อพยายามพยุงอุตสาหกรรมที่ทรุดโทรม ซึ่งมีส่วนแบ่งในตัวเลขเศรษฐกิจจีนถึง 1 ใน 4 

แม้ว่าจะมีสัญญาณบวกเช่นนั้น ทว่าตลาดยังคงไม่มั่นใจว่าท้ายที่สุดทางการจะ “หักมุม” และเข้ามาปราบปรามภาคส่วนนี้อีกหรือไม่ ทั้งหมดจึงทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์จีนยังอยู่ในภาวะซบเซา

โดย ทิง ลู (Ting Lu) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของโนมูระ (Nomura) กล่าว"ความต้องการที่อยู่อาศัยอาจไม่ฟื้นตัวมากเท่าที่ตลาดคาดไว้ด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งการเติบโตของรายได้ครัวเรือนที่ชะลอตัว ความเชื่อมั่นที่อ่อนแอเกี่ยวกับอนาคตของประเทศ อสังหาริมทรัพย์หลายแห่งยังสร้างไม่เสร็จและค้างอยู่แบบนั้น ประชากรที่ลดลง รวมทั้งราคาบ้านที่ลดลงในหลายเมือง" ว่า 

"ความต้องการที่อยู่อาศัยอาจไม่ฟื้นตัวมากเท่าที่ตลาดคาดไว้ด้วยเหตุผลหลายประการ ทั้งการเติบโตของรายได้ครัวเรือนที่ชะลอตัว ความเชื่อมั่นที่อ่อนแอเกี่ยวกับอนาคตของประเทศ อสังหาริมทรัพย์หลายแห่งยังสร้างไม่เสร็จและค้างอยู่แบบนั้น ประชากรที่ลดลง รวมทั้งราคาบ้านที่ลดลงในหลายเมือง" 

 

ด้านบทวิเคราะห์ของรอยเตอร์ส ระบุว่า เมื่อข้อมูลการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และตัวเลขอย่างเป็นทางการสำหรับเดือน ส.ค.เผยแพร่ออกมาในเดือนหน้า นักลงทุนจะรับรู้ปฏิกิริยาของตลาดที่แท้จริงในภาคส่วนดังกล่าวว่าเป็นอย่างไร 

ทั้งนี้ นับตั้งแต่การประชุมผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในเดือน ก.ค. หรือ โปลิตบูโร เมืองเจิ้งโจวตอนกลางและหางโจวทางตะวันออกก็ได้เปิดตัวมาตรการสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ และคาดว่าจะมีการประกาศเพิ่มเติมในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า  แม้ปฏิกิริยาของตลาดหุ้นจนถึงขณะนี้จะออกมาแบบผสมผสานก็ตาม

ขณะที่ ดัชนีของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง หรือ HSMPI ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบด้วยบริษัทเอกชน ปรับตัวลดลงราว 30% ในปีนี้ และมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตั้งแต่การประชุมโปลิตบูโร 

ขณะที่ดัชนีเกี่ยวกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์พื้นฐานของจีน ซึ่งรวมถึงบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ขยับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 9% นับตั้งแต่มีรายงานเรื่องการผ่อนปรนในภาคส่วนดังกล่าว แต่เมื่อพิจารณาทั้งปี พบว่า ยังคงลดลง 13% 

น่าสนใจว่า เจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์สว่า พวกเขากำลังมองหาโอกาสในการขายออกอสังหาฯ ของพวกเขา หรืออาจจะขายแบบไม่รีบร้อนเพื่อรอที่จะกลับเข้าสู่ตลาดในช่วงปกติ 

ด้านโซเฟีย เฉิน (Sophia Chen) ทนายความด้านทรัพย์สินทางปัญญาในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ 8 แห่งในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า 

"ประชาชนขาดความมั่นใจอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคต การฟื้นตัวหลังการระบาดใหญ่"

โดยเฉินเล่าว่า เธอไม่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ออกไปตั้งแต่ปี 2561  และเธอก็ไม่ขายอสังหาฯ ออกเช่นกัน เพราะตลาดหุ้นยังผันผวนเกินกว่าที่จะเป็นทางเลือกในการลงทุน ดังนั้นจึงเลือกถือครองอสังหาฯ ทั้งหมดไว้รอเวลาที่ตลาดหลับมาบูม

ด้านซูหร๋าน จาง (Zhuran Zhang) เจ้าของอสังหาริมทรัพย์ 5 แห่งทั่วประเทศจีน ก็ไม่ได้รับอานิสงส์เชิงบวกจาก “การลบคำพูด” ว่าบ้านไม่ได้มีไว้เก็งกำไรของสี จิ้นผิง (Xi Jingping) เช่นเดียวกัน

“ตอนนี้ฉันไม่ได้ขายอสังหาฯ ออกไปเพราะต้องถามความคิดเห็นของพ่อแม่ด้วย” จางกล่าว แต่เขาเสริมว่า: "ฉันก็จะไม่ซื้ออสังหาริมทรัพย์อีกต่อไป เพราะเป็นการลงทุนที่แย่ที่สุด"  

ในขณะเดียวกัน บทวิเคราะห์ของรอยเตอร์ส ระบุว่า คนอายุน้อยบางคนที่กำลังมองหาบ้านหลังแรกรู้สึกผิดหวังกับความจริงที่ว่ารัฐบาลจีนอาจอนุญาติให้มีการเก็งกำไรในภาคอสังหาฯ​ อีกครั้ง เพื่อทำให้ตลาดดังกล่าวกลับมาคึกคักมากขึ้น