'ดิสนีย์' เผยรายได้-ผู้ใช้งานต่ำคาด ท่องเที่ยวชะลอตัวดอลลาร์แข็งค่าฉุด
'ดิสนีย์' รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2566 โดยมีรายได้ 2.23 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ เหตุท่องเที่ยวชอละตัว ค่าดอลลาร์แข็งค่าฉุดตัว และความต้องการลดลงหลังโควิด ซีอีโอเผย "ผลประกอบการเบาลง"
Key Point:
- ซีอีโอของ Disney เผยผลการดำเนินงาน Walt Disney World park ชะลอตัว
- เนื่องจากการท่องเที่ยวในฟลอริดาชะลอตัว
- ดิสนีย์ จ่อปรับขึ้นราคาสตรีมมิงเพิ่ม 27%
บ็อบ ไอเกอร์(Bob Iger) ซีอีโอของ Disney (DIS) เผยว่าผลการดำเนินงานของ Walt Disney World park ทั้ง 6 แห่งทั่วโลก ซึ่งเป็นธุรกิจเรือธงของบริษัทนั้น “เบาบางลง” เนื่องจากการชะลอตัวของการท่องเที่ยวในฟลอริดา ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่า และความต้องการลดลงหลังการแพร่ระบาดโควิด 19
ดิสนีย์รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ของปีงบประมาณ 2566 โดยมีรายได้ 2.23 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 2.25 หมื่นล้านดอลลาร์
และขาดทุนเพียง 512 ล้านดอลลาร์ จากเดิมขาดทุน 1,100 ล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อน ขณะที่สมาชิก Disney+ ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยมีจำนวนสมาชิกอยู่ที่ 146.1 ล้านราย ซึ่งต่างจากที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 154.8 ล้านราย
อย่างไรก็ตาม รายได้จาก 3 ส่วนทั้ง สวนสนุก การเข้าชมและผลิตภัณฑ์ของดิสนีย์ก็พุ่งเกินความคาดหมายในไตรมาสนี้ โดยสูงถึง 8.33 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 8.25 พันล้านดอลลาร์ที่คาดไว้
รวมทั้งกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทหักลบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 2.43 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขประมาณการที่ 2.39 พันล้านดอลลาร์ และสูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วที่ 2.19 พันล้านดอลลาร์
ไอเกอร์ เผยถึง ประสิทธิภาพที่ลดลงของ Walt Disney World ลดลงจากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการฉลองครบรอบ 50 ปีที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ในขณะที่ความต้องการสวนสนุกหลังเผชิญวิกฤตโควิด19 ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องในฟลอริดา ซึ่งข้อมูลภาษีท้องถิ่นแสดงให้เห็นหลักฐานการอ่อนตัวลงของตลาดการท่องเที่ยวที่สำคัญหลายแห่งในฟลอริดาอย่างชัดเจน
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ดิสนีย์ได้ประกาศการอัปเดตที่รอคอยมานานสำหรับระบบการจองสวนสนุกและโปรแกรมผู้ถือบัตรผ่านประจำปี หลังคำวิภาควิจารณ์ที่รุนแรงจากผู้บริโภคเกี่ยวกับเวลารอที่ยาวนานและราคาตั๋วที่สูงเสียดฟ้า
หลังจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว Iger กล่าวว่าบริษัทได้รับการตอบรับเชิงบวกจากผู้เข้าพัก ซึ่งรวมถึง “ความต้องการที่แข็งแกร่ง” สำหรับบัตรผ่านประจำปี และดิสนีย์กำลังลงทุนจำนวนมากทั่วโลก เพื่อขยายธุรกิจสวนสนุกเติบโตยิ่งขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า และมองถึงอนาคตของธุรกิจนี้ในระยะยาว
'ดิสนีย์' จ่อขึ้นราคาสตรีมมิงเพิ่ม 27%
ดิสนีย์เตรียมขึ้นราคาบริการสตรีมมิงของบริษัทเกือบทั้งหมด เพื่อเร่งทำกำไรให้ธุรกิจโดยดิสนีย์พลัสแบบไร้โฆษณา จะมีค่าบริการอยู่ที่ 13.99 ดอลลาร์ต่อเดือน หรือราว 491 บาทต่อเดือน เพิ่มขึ้น 27% เริ่มตั้งแต่ 12 ต.ค. เป็นต้นไป ส่วนดิสนีย์พลัสที่มีโฆษณา มีค่าบริการอยู่ที่ 7.99 ดอลลาร์ต่อเดือนและดิสนีย์จะขยายบริการที่มีโฆษณาไปยังบางตลาดในทวีปยุโรปและในแคนาดา โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. เป็นต้นไป
นอกจากนี้ ดิสนีย์ยังขึ้นราคาสตรีมมิงฮูลูแบบไร้โฆษณาเป็น 17.99 ดอลลาร์ต่อเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากราคาเดิม 20% ส่วนบริการฮูลูที่มีโฆษณา ค่าบริการอยู่ที่ 7.99 ดอลลาร์ต่อเดือนเหมือนดิสนีย์พลัส
อ้างอิง finance.yahoo