แบงก์แข่งแคมเปญ 'เงินฝาก'เดือด ระดมเงินรองรับปล่อยกู้โค้งท้าย
แบงก์ชี้สถานการณ์แย่งเงินฝากเดือด ทั้งตลาดหุ้นกู้ ตลาดประกัน และสถาบันการเงิน รองรับการปล่อยสินเชื่อสะพัดปลายปี “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ชี้ ช่วง 8เดือน ยอดออกแคมเปญเงินฝากของระบบแบงก์พุ่ง 147โปรดักต์
นายฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB กล่าวว่า ปัจจุบันทิศทางการแข่งขันดึงเงินฝากค่อนข้างแรง ทั้งในระบบธนาคารพาณิชย์(แบงก์) ตลาดหุ้นกู้ และตลาดประกัน เนื่องจากเป็นช่วงใกล้โค้งท้ายของปี ที่จะเป็นช่วงของการลงทุน การออมเงิน และการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษี บวกกับในตลาดหุ้นกู้เองมีความต้องการสภาพคล่องมากขึ้น เพื่อรองรับการลงทุน และล็อกอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบัน
โดยในส่วนของภาคธนาคารพาณิชย์มีความต้องการสภาพคล่องมากขึ้น เพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อในช่วงปลายปีนี้และปีหน้า ที่คาดจะฟื้นตัวต่อเนื่อง ทำให้เห็นทั้ง 3 ตลาด ออกมาแข่งขันเพื่อดึงเงินฝากต่อเนื่องไปถึงสิ้นปีนี้
ในส่วนของทีทีบี คาดว่า เงินฝากอาจโตได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ราว 1-2% และเตรียมออกแคมเปญพิเศษ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ก
นายติยะชัย ชอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผลิตภัณฑ์การออม ธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)หรือ CIMBT กล่าวว่า เชื่อว่าการออกมาแข่งขันเงินฝากของสถาบันการเงินเป็นสิ่งที่ดี เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ฝากเงิน ให้มีโอกาสเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และมีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด
ส่วนของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ได้มีการออกโปรดักต์เงินฝากต่อเนื่อง โดยเฉพาะบนดิจิทัลและเร็วๆนี้คาดเตรียมออกโปรดักต์เงินฝากออมทรัพย์ไม่เกิน 12 เดือน ออกมาเพิ่มเติม ซึ่งให้ดอกเบี้ย 1.88-2.88% โดยกลุ่มแรก จะออกดอกเบี้ยออมทรัพย์ สำหรับลูกค้าที่ฝากเงินตั้งแต่ 100,000บาท ถึง 5 ล้านบาท ให้ดอกเบี้ย 1.88%
สำหรับลูกค้าผู้ฝากเงินตั้งแต่ 5 หมื่นบาท ถึง 1แสนบาท ให้ดอกเบี้ย 2.88% ซึ่งทั้ง 2 แคมเปญ ถือว่าดอกเบี้ยสูงที่สุดในตลาด สำหรับ ดอกเบี้ยออมทรัพย์ หลักๆเพื่อส่งเสริมการออม โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อย ซึ่งทั้ง 2 แคมเปญรองรับสำหรับลูกค้าที่ฝากเงินบนโมบายแอปพลิเคชันของ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
“เราไม่ได้ตั้งเป้าที่จะเติบโตเงินฝาก ว่าจะเป็นเท่าไหร่ แต่เราอยากเห็นคนออมเงินมากขึ้น และมีผลิตภัณฑ์เงินฝากที่หลากหลาย และมีตัวเลือกให้ผู้บริโภคมากขึ้น โดยเบื้องต้นคาดทั้ง 2 โปรดักต์ที่จะออกใหม่ คาดสามารถระดมทุนได้ราว 1-3 พันล้านบาท”
สำหรับเงินฝากที่เตรียมจะออกเร็วๆนี้ หลักๆ เป็นบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ที่ปรับดอกเบี้ยใหม่สำหรับบัญชี Speed D+ สูงถึง 1.88% โดยสามารถฝากได้ตั้งแต่ 100,000 บาท จนถึง 5 ล้านบาท โดยจะเริ่มมีผลในวันที่ 19 กันยายน 2566 เป็นต้นไป
สำหรับบัญชี Chill D ดอกเบี้ยใหม่จะสูงถึง 2.88% สำหรับยอดเงินฝาก 50,000 - 100,000 บาท นอกจากนี้ยังมี บัตรเดบิต ชิลดี ที่ฟรีค่าธรรมเนียมต่างๆมากมาย สำหรับบัญชี Chill D จะมีผลการขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 4 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
ส่วนบัญชีเงินฝากประจำ สำหรับลูกต้าที่ไม่เคยมีผลิตภัณฑ์ใดๆกับธนาคารมาก่อน รับดอกเบี้ยสูงถึง 2.40% สำหรับระยะฝาก 18 เดือน
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่า การเติบโตเงินฝากของธนาคารปีนี้ น่าจะอยู่ที่ราว 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน
นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ ผู้บริหารงานวิจัย บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า การออกแคมเปญเงินฝากมากขึ้นของสถาบันการเงินหลักๆเป็นช่วงไฮซีซั่นของการแข่งขันเงินฝาก และการออกแคมเปญเงินฝากของทุกปี
อีกทั้งยังมาจากการออกโปรดักต์เงินฝากมาเพื่อทดแทนเงินฝากเดิมที่จะหมดอายุ สำหรับเงินฝากประจำพิเศษ และใกล้จะหมดอายุ
นอกจากนี้ยังมาจากการต้องการสภาพคล่อง เพื่อรองรับสินเชื่อที่คาดจะเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ไปจนถึงปีหน้า เพราะเศรษฐกิจที่จะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงหลายปี ส่งผลให้สถาบันการเงินออกเงินฝากมากขึ้น
อย่างไรก็ตามหากดูภาพรวมเงินฝากในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา พบว่าติดลบอยู่ที่ 0.1% หรือมียอดคงค้างที่ 15.62 ล้านล้านบาท และคาดทั้งปีนี้เงินฝากจะกลับมาเพิ่มขึ้นได้ที่ 0.6% หรือมียอดคงค้างที่ 15.96 ล้านล้านบาท
สำหรับการออกแคมเปญเงินฝากในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีแคมเปญที่ออกใหม่ทั้งสิ้น 147 แคมเปญ และมีแคมเปญที่ครบกำหนด 66 แคมเปญ โดยรวมแล้ว มีแคมเปญเงินฝากออกใหม่มากกว่าครบกำหนด 81 แคมเปญ .
ทั้งนี้ เงินฝากส่วนใหญ่ในเดือนส.ค.เป็นเงินฝากระยะสั้นไม่เกิน 12 เดือน