ธปท.ขีดเส้น ‘เลิก’ ใช้ รหัสบัญชี 21 หนี้เสียจากโควิด รัฐจ่อพักหนี้5ล้านราย

แหล่งข่าวจากสมาชิกเครดิตบูโร กล่าวว่า ล่าสุด นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ลงนาม ประกาศ “สิ้นสุด” การใช้ลูกหนี้ ในรหัสสถานะบัญชี 21 หรือลูกหนี้ที่เป็นหนี้เสียในช่วงโควิด-19 เนื่องจากสถานการณ์โควิดได้คลี่คลายอย่างต่อเนื่อง

โดยในประกาศนี้ ระบุว่า คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเคเครดิต ได้มีหนังสือ ลงวันที่ 25 มิ.ย. 2564 แจ้งให้สมาชิกเริ่มใช้รหัสบัญชี 21 และ 021 สำหรับข้อมูลลูกหนี้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และให้นำส่งแก่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ หรือเครดิตบูโต ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2565 เป็นต้นไป

แต่ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายความรุนแรงและมีแนวโน้มลดลง อีกทั้งไม่ได้เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อรายได้ และความสามารถในการชำระหนี้ของทั้งประชาชน ธุรกิจ อย่างมีนัยสำคัญอีกต่อไป จึงขอแจ้งสิ้นสุดการใช้รหัสสถานะบัญชี 21 หรือ 021 ทั้งนี้การดำเนินการส่งข้อมูลเครดิตมีเงื่อนไขดังกล่าว  

1.ให้นำส่งข้อมูลด้วยรหัสสถาบันบัญชี 21 หรือ 021 ตามแนวทางของหนังสือที่กล่าวไว้ข้างต้น จนถึงงวดข้อมูลเดือนมี.ค. 2567 เป็นงวดสุดท้าย

2. บัญชีสินเชื่อที่เริ่มค้างชำระเกิน 90 วัน ตั้งแต่งวดข้อมูลเดือนเม.ย. 2567 เป็นต้นไป ให้นำส่งด้วยรหัสสถานะบัญชี 20 หรือ 020 ทุกบัญชี เว้นแต่บัญชีที่ถูกนำส่งด้วยรหัสสถานะบัญชี 21 และ 021 ในงวดข้อมูลเดือนมี.ค. 2567 ให้นำส่งด้วยรหัสสถานะบัญชี 21 และ 021 ต่อไปจนบัญชีสินเชื่อดังกล่าวจะเปลี่ยนสถานะบัญชีตามข้อเท็จจริง อาทิ เมื่อชำระหนี้ได้ จนกลับมาเป็นสถานะบัญชีปกติ ต้องนำส่งด้วยรหัสสถานะบัญชี 10 และ 010 และหากต่อไปค้างชำระเกิน 90 วัน ต้องนำส่งด้วยรหัสสถานะบัญชี 20 และ 020 เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การยกเลิก สถานะของลูกหนี้ในบัญชี 21 หรือ 021 ลงนั้น เนื่องจาก ภาครัฐต้องการมีข้อมูลที่ชัดเจน ในการเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มนี้ในอนาคต โดยเฉพาะการใช้มาตรการ “พักหนี้” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ที่เป็นหนี้เสียเพราะเหตุสุดวิสัย จากโควิด-19 ในระยะถัดไป เพื่อให้การช่วยเหลือถูกกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ก่อนหน้า  นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) โพสต์เฟซบุ๊ก "Surapol Opasatien"ส่วนตัวว่า  “เล่าเรื่องด้วยตัวเลข”  โดยระบุว่า อย่างที่เคยได้เรียนทุกๆท่านว่า โควิดจบ แต่หนี้ยังไม่จบ จากข้อมูลสิ้นสุดสิงหาคม 2566 ข้อมูลสถิติของลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่ตัดตัวตนออกแล้วมันบอกว่า คนที่เป็นหนี้เสียจากโควิด-19 หรือคนที่มีอาการ Long covid ด้านหนี้สินนั้นมันมีตัวเลขน่าสนใจดังนี้

         (1) มิถุนายน มียอดหนี้ 3.74แสนล้านบาทเพิ่มเป็น3.82แสนล้านบาทในเดือนสิงหาคม หรือเพิ่มขึ้นประมาณเจ็ดพันล้านบาทในช่วงสองเดือน
         (2) มิถุนายน มีจำนวนบัญชีหนี้รหัส 21นี้อยู่ที่ 4.94ล้านบัญชี อีกสองเดือนต่อมาเพิ่มขึ้นเป็น 5.04ล้านบัญชีหรือเพิ่มขึ้น 1แสนบัญชี(อ่านว่าแสนบัญชีนะครับ)
         (3) ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้าบัญชีหนี้เสียรหัส 21 น่าจะเป็นเป้าหมายของการพักหนี้หลังจากเคลียร์เรื่องหนี้เกษตรกรแล้ว ดังนั้นตัวเลขยอดหนี้รวมเดือนสิงหาคม ล่าสุดคือ 3.8แสนล้าน 5ล้านบัญชี ประเด็นคือถ้าตัดเอาวงเงินที่เชื่อว่าเป็นรายย่อยก็อาจจะได้ตัวเลขแถวๆ 3แสนล้านบาท 3ล้านบัญชีหรือไม่ อันนี้ต้องรอดูกันต่อไป
         (4) ข้อกังวลของตัวผมคือการไหลจากลูกหนี้ปกติ ลูกหนี้ที่เริ่มค้างชำระ จะตัดสินใจไม่จ่ายดอกหรือต้นในปัจจุบันเพื่อให้บัญชีนั้นกลายไปเป็นหนี้เสียเพราะโควิดหรือไม่ เพื่อรับเอาประโยชน์จากการได้รับความช่วยเหลือ(หลวงท่านจะช่วยจ่ายดอกให้แทนเป็นต้น) 

ดังนั้นเมื่อโควิดจบแล้วในแง่การระบาดของโรค การยุติใช้รหัสดังกล่าวก็ควรยุติลงตามไปด้วย ในเวลาที่เหมาะควร เราจึงจะได้ยอดหนี้และจำนวนบัญชีที่มีลักษณะดังกล่าวใช่หรือไม่ เพราะจำนวนนั้นคือสารตั้งต้นในการให้ความช่วยเหลือ(ถ้ามีอ่ะนะ) 

     ถ้าเราหยุดการใช้รหัสนี้ตั้งแต่มกราคม 2567 มันก็จะน่าพอดีกับเรื่อง เพราะรหัสนี้ออกมาตั้งแต่มกราคม 2565 ครบสองปีพอดี แต่ถ้าเราไปหยุดการใช้รหัสนั้นช้าไปเช่นไปเริ่มตอนสงกรานต์, ตอนกลางปีหน้า มันมีคำถามตัวโตๆว่าจะมีคนที่ตั้งใจจะกลายเป็นหนี้เสียเพราะโควิดเพื่อให้ได้ประโยชน์จากโครงการที่กำลังจะมีมาหรือไม่ 

สองเดือนที่ผ่านมาก็เห็นแล้วว่าไหลลงมาเติมแสนบัญชี เป็นตังค์ก็ เจ็ดพันล้านบาท ถ้ามันกระโดดขึ้นมาในเดือนกันยายน ลากไปจนวันยกเลิกการใช้รหัส21นี้แล้ว ภาระทางการคลังก็คงเพิ่มไปตามนั้น เรื่องนี้อาจเป็นอะไรที่เล็กๆน้อยๆสำหรับท่านๆ แต่สำหรับคนทำงานที่ถูกหักภาษีเต็มๆเขาเรียกว่า...

ประหยัดได้ต้องประหยัด
เงินทองของหายาก
เงินหลวงตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้
อย่าหมิ่นเงินน้อย
พูดไปก็หลายครั้ง ถ้าเป็นปลาปากคงฉีกถึงหูแล้วภาษี นะครับภาษี เบาได้เบาครับ
ข้อมูลดูได้ตามตารางนะครับ, ขัดเคืองใจก็ไม่ต้องดูนะครับ

ตัวผมเองยังต้องนั่งทำงานกับข้อมูลครับ ยังตายไม่ได้ ส่วนจะไปโทษว่าเป็นซึมเศร้าแล้วจะไปกระโดดสะพานอย่างที่ท่านผลักความผิดออกจากใจตัวนั้น มโนสำนึกพระท่านว่ามันบาปกรรม มันจะติดตัวไปอ่ะนะครับ ทำไม่ได้จริงๆ