‘บอนด์สหรัฐ’ ผันผวนหนัก ทำแผนการกู้ยืม รัฐบาล - เอกชน ป่วน พบยอดระดมทุนเอกชนนิวโลว์
ความปั่นป่วนในตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐกดดันแผนการกู้ยืมทั้งรัฐบาล และเอกชนให้ผันผวนหนัก พบยอดระดมทุนของเอกชนสหรัฐได้ไม่ถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.6 ล้านล้านบาท) ในเดือนต.ค. ต่ำสุดในรอบ 6 ปี
สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทมส์ (Financial Times) รายงานวันนี้ (26 ต.ค.66) ว่าความปั่นป่วนในตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐส่งผลให้บริษัทสัญชาติอเมริกันต้องชะลอแผนการกู้ยืมออกไป จนทำให้เดือนต.ค.เป็นเดือนที่ทางการออกพันธบัตรช้าที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ
โดยที่ผ่านมา บริษัทเอกชนสหรัฐระดมทุนได้ไม่ถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.6 ล้านล้านบาท) จากการขายหุ้นกู้ และสินเชื่อเงินกู้จนถึงเดือนต.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่ยอดการซื้อขายบอนด์เงียบที่สุดในปีนี้ และอัตราการกู้ยืมที่อ่อนแอที่สุดในเดือนต.ค.นับตั้งแต่ปี 2554
ด้านแหล่งข่าวด้านธนาคารของไฟแนนเชียลไทมส์ กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงเดือนที่ผ่านมาส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทเอกชนสูงขึ้น
ขณะที่ ริชาร์ด โซเกบ (Richard Zogheb) หัวหน้าฝ่ายตลาดตราสารหนี้ระดับโลกของ Citi กล่าวว่า “นักลงทุนที่เข้าไปเก็งกำไรในสินทรัพย์ดังกล่าวช่วงที่ผ่านมาเริ่มถอยการลงทุนออกมาแล้ว”
ทั้งนี้ บอนด์ยีลด์อายุ 10 ปีในสัปดาห์นี้เพิ่มขึ้นเหนือ 5% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 จากเดิมอยู่ในระดับต่ำกว่า 4% เมื่อสามเดือนที่แล้ว ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นต่อไประยะหนึ่ง
โดยการเพิ่มขึ้นดังกล่าวส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมที่บริษัทในอเมริกาต้องเผชิญ อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยของพันธบัตรระดับการลงทุน (Investment Grade) ของสหรัฐ ขณะนี้อยู่ที่ 6.3% จากเดิม 5.6% ในช่วงปลายเดือนก.ค. ในขณะที่พันธบัตรความเสี่ยงสูง (Junk Bonds) ให้ผลตอบแทน 9.4% เพิ่มขึ้นจาก 8.4%
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์