‘ธปท.’ หั่นดอกเบี้ยปีหน้าแน่นอน Standard Chartered - Nomura ฟันธง ! หลังเงินเฟ้อหด
บริษัท หลักทรัพย์ (บล.) สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) และบล.โนมูระ (Nomura) ออกบทวิเคราะห์ถึงเศรษฐกิจไทยว่ามีแนวโน้มสูงที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปี 2567 แม้ชี้จีดีพีทั้งปีนี้โตไม่ถึง 3% แน่นอน
หลังจากหลายประเทศทั่วโลกเผชิญกับสภาวะ “อัตราดอกเบี้ยขาขึ้น” มาอย่างยาวนานตั้งแต่เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สงครามรัสเซีย-ยูเครน รวมทั้งความขัดแย้งในตะวันออกกลาง
ล่าสุด (22 พ.ย.66) บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) และบล.โนมูระ (Nomura) ออกบทวิเคราะห์ถึงเศรษฐกิจไทยว่ามีแนวโน้มสูงที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปี 2567
โดยด้านบทวิเคราะห์ของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ระบุว่าเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความเสี่ยงด้านการเติบโตที่ต่ำกว่าคาด ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการคลัง รวมทั้งตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ที่โตต่ำคาด
ทั้งหมดทำให้ในปีหน้าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโต 2.5% ทั้งปี 2566 จากเดิมคาดการณ์ว่าอยู่ที่ 3.3% และอาจจะโต 3.2% ในปี 2567 จากคาดการณ์เดิมที่ 4.2%
ทั้งนี้ ยังประเมินว่า ธปท. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไวในระดับเดิมในอนาคตอันใกล้ ทว่ามีแนวโน้มที่จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 จากคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของ ธปท.ที่ลดลงเหลือ 4.4% และ 2.6% ตามลำดับ
ในขณะที่บทวิเคราะห์ของโนมูระ ระบุในทำนองเดียวกันว่าในไตรมาส 2 ปี 2567 ธปท.มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจากภาพของเงินเฟ้อในประเทศที่ปรับลดลง
รวมทั้งจากจีดีพีไตรมาส 3 ที่ออกมาต่ำคาด ดังนั้นบทวิเคราะห์จึงประเมินว่าทั้งปี 2566 และ 2567 เศรษฐกิจไทยจะโตอยู่เพียง 2.4% และ 3.8% ตามลำดับ
ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ที่ต่ำคาดอาจทำให้ความต้องการของรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสินในการแจกเงินดิจิทัล 10,000 รุนแรงขึ้นไปอีก
แม้จะเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านแหล่งที่มาของต้นทุน (Uncertainty Around its Financing Plan) และในปีหน้า เศรษฐกิจไทยอาจได้รับแรงกดดันจากนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงเนื่องจากความปั่นป่วนของเศรษฐกิจในประเทศของเขา
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์