กำไร 'ภาคอุตสาหกรรมจีน’ ชะลอตัวหนักเฉียด 8% หลังเผชิญสภาวะเงินฝืด
ผลกำไรของ "บริษัทอุตสาหกรรมของจีน” เพิ่มขึ้น 2.7% ซึ่งเติบโตในอัตราที่ช้ากว่าเดือนก่อนมากเพราะได้รับแรงกดดันจากเงินฝืด ในขณะที่ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 กำไรของกลุ่มดังกล่าวลดลง 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (27 พ.ย.) ว่า "ผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมของจีน" เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้ากว่าเดือนก่อนมากเพราะได้รับแรงกดดันจากเงินผืด บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงเปราะบางมาจนถึงช่วงสุดท้ายของปี 2566
โดยข้อมูลที่เผยแพร่โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เปิดเผยว่า ผลกำไรภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 2.7% จากปีที่แล้ว อัตราการเติบโตลดลงอย่างมากจากในเดือนก.ย.และเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้น 11.9% และ 17.2% ตามลำดับ
ทั้งนี้ ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2566 กำไรของกลุ่มดังกล่าวลดลง 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยลดลงเล็กน้อยจากที่ลดลง 9% ในช่วงเก้าเดือนแรก
นอกจากนี้ ดัชนี CSI 300 ในประเทศจีนและดัชนีหุ้นจีนที่จดทะเบียนในฮ่องกงต่างก็ร่วงลงมากกว่า 1% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ และได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่แย่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก เนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงอ่อนแอ
ด้านซิง เจ้าเผิง (Xing Zhaopeng) นักวิเคราะห์อาวุโสที่ Australia & New Zealand Banking Group Ltd. ประเมินว่าข้อมูลผลกำไรครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ว่าอยู่ในสภาวะที่ไม่ปกติ
“อุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอก็มีส่วนทำให้ผลกำไรในภาคส่วนนี้หดตัว นอกจากนี้เรายังคงเห็นความเสี่ยงด้านลบมากขึ้นต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งจะส่งผลต่อแนวโน้มกำไรต่อไป”
อ้างอิง
