เอสซีบี เอกซ์ หนุนรัฐ ดันไทยเป็น “ฮับเอไอ” ระดับภูมิภาค
"อารักษ์" แนะภาครัฐหนุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยด้วยเอไอ ชี้ 4 ปัจจัยเร่งให้เกิดการใช้เอไอ ภาครัฐสนับสนุนการลงทุนด้าน AI มากขึ้น กฎระเบียบต้องเอื้อให้เกิดการลงทุน และดึงเทคสตาร์ตอัปเข้าไทยเพิ่ม หนุนไทย "ฮับเอไอ" ระดับภูมิภาค"
นายอารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เดต้า เอกซ์ จำกัด (DataX) และรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน) SCBX กล่าวในหัวข้อ AI in Action:vision to Reality for Thailand's Future Economy สู่การใช้จริง เพื่อขับเคลื่อนอนาคตเศรษฐกิจไทย ในงานสัมมนา AI REVOLOTION 2024 TRANSFORMING THAILAND ECONOMY ของหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ ว่า ปัจจุบัน แม้หลายองค์กรจะเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีเอไอ แต่ความพร้อมในการนำเอไอมาใช้จริงยังต่ำมาก โดยพบว่าองค์กรที่มีความพร้อมในการนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้ให้เกิดประโยชน์มีเพียง 20% เท่านั้น
ทั้งนี้ หากพูดถึงพร้อมในการนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้ จากการสำรวจของ OXford Insights หากเทียบกับ 100 ประเทศ ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 37 ที่แม้มีความตั้งใจในการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเอไอ แต่สิ่งที่น่าห่วงคือ การนำเทคโนโลยีเอไอมาใช้ยังไม่พร้อมมากนัก ดังนั้นมองว่าถึงจุดที่ประเทศไทยต้องผลักดัน และพยายามใช้เอไอเข้ามามากขึ้น
ดังนั้นการผลักดันให้เศรษฐกิจไทย ขับเคลื่อนด้วยเอไอ มองว่าต้องมี 4 เรื่องสำคัญ ด้านแรก AI Technology เพราะการขับเคลื่อนประเทศไทยให้แข็งแรงจำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องมีความสามารถด้านเอไอมากขึ้น แต่หากดูการลงทุนด้าน R&D เพื่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ในปัจจุบันของไทย ถือว่าอยู่น้อยมาก
โดยประเทศไทยใช้งบลงทุนด้าน R&D ปีละเพียง 5-6 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 2 แสนล้านบาท ราว 1% ของจีดีพี
หากเทียบกับบริษัทในสหรัฐ ขณะที่ประเทศที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี มีการลงทุนด้าน R&D สูงถึง 3-4 แสนล้านดอลลาร์ หรือหลายล้านล้านบาท หรือบริษัทในสหรัฐ เพียงบริษัทเดียว ที่มีการลงทุนด้าน R&D สูงถึง 2-4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่างบลงทุนของประเทศไทยทั้งประเทศ ดังนั้นเราจะมีความหวังอย่างไรในการแข่งขันในด้านการพัฒนาด้านเทคโนโลยี
“สิ่งสำคัญ การพัฒนาเทคโนโลยี ไอเอเหล่านี้ จำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนงบลงทุนจากภาครัฐ เพราะประเทศไทยมีการลงทุนด้านนี้ค่อนข้างน้อย น้อยกว่าบริษัทสหรัฐที่มีการลงทุนเพียงบริษัทเดียวถึง 3-4 เท่า ดังนั้นประเทศไทยจะอยู่อย่างนี้ไม่ได้ และประเทศไทยต้องเอื้อให้เกิดการดึงเทคสตาร์ตอัปเก่งๆ จากต่างประเทศ เข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น เหล่านี้ ภาคเอกชน และภาครัฐมีส่วนสำคัญ ที่จะทำให้เกิดการสนับสนุนให้เกิดสิ่งเหล่านี้มากขึ้น”
ในส่วนของเอสซีบี เอกซ์ ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านเทคโนโลยี และเอไออย่างมาก ที่คณะกรรมการบริหาร(บอร์ด)ให้ความสำคัญ โดยเอสซีบี เอกซ์ ได้รับเงินลงทุนในด้านเหล่านี้ ราว 2-3 พันล้านบาทต่อปี หรือราว 5% ของกำไรบริษัท เพื่อลงทุนในด้านเอไอ
สอง DATA ปัจจุบัน ประเทศไทยยังขาดข้อมูลดาต้าอย่างมาก สะท้อนว่า ประเทศไทย ไม่สามารถจัดเก็บดาต้าได้ตั้งแต่ต้นทาง ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำให้เกิดขึ้นคือ การให้ความสำคัญด้านการจัดเก็บดาต้า และต้องจัดเก็บดาต้าแบบเรียลไทม์ ที่ภาครัฐต้องเร่งทำให้เกิดขึ้น ให้มีข้อมูลบิ๊กดาต้าของเมืองไทยมากขึ้น
สาม HUMAN โดย AI-Native Generation จะทันโลกได้ AI ต้องอยู่ใน DNA และต้องผนวก AI เข้ากับภาคการศึกษา เพื่อสร้างเจเนอเรชันใหม่ ที่เท่าทันโลก และดึง Regional AI Talents เพื่อยกระดับความสามารถด้าน AI ไม่ให้ตกขบวน
สุดท้าย AI Ecosystem คือ สิ่งแวดล้อมต่างๆ ต้องเอื้อ ให้เทคโนโลยีเอไอเกิดขึ้นทั้งการปรับกฎหมาย การผลักดันนโยบาย การร่วมทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐเอกชน ภาคการศึกษา เพื่อสร้าง AI Ecosystem ที่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า เช่น การเอื้อให้เกิดการสร้างอินเซนทีฟให้กับสตาร์ตอัป ที่เข้ามาลงทุนด้านไอเอ เหล่านี้จะช่วยดึง Talents ใหม่ๆ จากข้างนอกประเทศ เข้ามามากขึ้น
ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากเอกชน และภาครัฐ ในการผลักดันให้ประเทศไทย เป็น “เอไอฮับ” ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อดึงเทคโนโลยีเอไอใหม่ๆ เช่น การลงทุนจากกูเกิล ไมโครซอฟท์ มาตั้งในประเทศไทยมากขึ้น