ยอดดีล 'ควบรวมกิจการ' เอเชียทรุดหนัก เศรษฐกิจจีนฉุดการลงทุนต่ำสุดใน 10 ปี
มูลค่าการควบรวมกิจการ (M&A) ที่สนับสนุนโดย "ไพรเวท อิควิตี้" ในเอเชียทรุดหนัก 32% เลวร้ายสุดในรอบ 10 ปี แม้เงินทุนสำรองของไพรเวทอิควิตี้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่เศรษฐกิจจีนซบเซา-อัตราดอกเบี้ยสูง-ตลาดผันผวน ไม่น่าลงทุน
บริษัท เบน แอนด์ คัมพานี (Bain & Company) บริษัทให้คำปรึกษาด้านการจัดการจากสหรัฐ เปิดเผยมูลค่าการควบรวมกิจการ (M&A) ที่สนับสนุนโดย ไพรเวท อิควิตี้ Private Equity (PE) ในเอเชียในไตรมาสแรกปี 2567 อยู่ที่ 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 32% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งเลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปีตั้งแต่ปี 2557 ขณะที่ยอดการทำธุรกรรม PE ทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น 21% เป็น 136 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เงินทุนสำรองของไพรเวท อิควิตี้ในเอเชีย แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 1.23 ล้านล้านดอลลาร์ แต่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยสูง ตลาดที่ผันผวน และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ได้จำกัดการลงทุนและการออกจากบริษัท และส่งผลกระทบต่อความสามารถของผู้จัดการกองทุนในการระดมทุนใหม่ ทำให้การระดมทุนใหม่ของกองทุน PE ลดลง 44% ในไตรมาสแรกของปี 2567
เซบาสเตียน ลามี หัวหน้าร่วมฝ่ายปฏิบัติการ APAC PE มองว่าระยะเวลาการถือครองที่ยาวนานขึ้นไม่เพียงแต่สร้างแรงกดดันต่อผลตอบแทนเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงกดดันต่อความสามารถในการระดมทุนใหม่ ซึ่งนักลงทุนกำลัง รอดูว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะพัฒนาไปอย่างไร ซึ่งความไม่แน่นอนในเศรษฐกิจปัจจุบัน ทำให้ยากที่จะตัดสินใจลงทุน
ข้อมูลจากพรีกิน (Preqin) ผู้ให้บริการข้อมูลชั้นนำเผยให้เห็นว่า กองทุนไพรเวทอิควิตี้กำลังออกจากเอเชีย ไม่ว่าจะผ่านการเสนอขายหุ้น IPO การขายกิจการหรือการซื้อกิจการต่อ ซึ่งลดลง 51% เหลือเพียง 4.9 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปีนี้
การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการควบรวมกิจการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนไพรเวท อิควิตี้ในภูมิภาคเอเชีย โดยข้อมูลจาก LSEG เผยให้เห็นว่าจำนวนข้อตกลงในจีนลดลงเกือบครึ่งในไตรมาสแรกของปี 2567 เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทำให้ความกระหายของนักลงทุนลดลง
พอล ดิเจียโคโม ผู้จัดการจากธนาคารเพื่อการลงทุน BDA Partners ในฮ่องกง กล่าวว่า ไพรเวท อิควิตี้ทั่วโลก ส่วนใหญ่มีความระมัดระวังอย่างมากในการลงทุนในประเทศจีน
รวมทั้งข้อมูลจากพรีกิน แสดงให้เห็นว่ามีการระดมทุนเพียง 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ผ่าน 28 กองทุนในไตรมาสแรก ซึ่งถือเป็น มูลค่ารายไตรมาสต่ำสุดนับตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม ปี 2557 เพราะในช่วงห้าปีที่ผ่านมามีการระดมทุนโดยเฉลี่ย 313 กองทุนต่อไตรมาส
อ้างอิง Reuters