เปิดกำไร 11 ธนาคารพาณิชย์ ไตรมาสแรกพุ่ง 6.3 หมื่นล้าน โต 24% KBANK-SCB สูงสุด

เปิดภาพรวมผลการดำเนินงาน 11 ธนาคารพาณิชย์ อาทิ กลุ่มเอสซีบี เอกซ์(SCB) ,ธนาคารกรุงเทพ(BBL),ธนาคารกรุงไทย(KTB) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) ธนาคารทหารไทยธนชาต(TTB)กลุ่มการเงินทิสโก้(TISCO) ธนาคารเกียรตินาคินภัทร(KKP)ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์(LHFG) และธนาคารซีไอเอ็มบีไทย(CIMBT) ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ธนาคารไทยเครดิต( CREDIT)

โดยหากดูกำไรสุทธิโดยรวมของทั้ง 11 ธนาคารพบว่าโดยรวมอยู่ที่ 63,960 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 24.07% หากเทียบไตรมาสก่อน ที่มีกำไรสุทธิโดยรวมที่ 51,551 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 6.11% หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 60,278 ล้านบาท 
 

โดยธนาคารพาณิชย์ ที่มีกำไรสูงที่สุดในกลุ่ม คือ ธนาคารกสิกรไทย โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 13,486 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.65% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 25.56% จากช่วงเดียวกันปีก่อน รองลงมาคือ SCB โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 11,281 ล้านบาท รองลงมาคือ KTB กำไรสุทธิอยู่ที่ 11,079 ล้านบาท และ BBL ที่ 10,524 ล้านบาท 

แต่ธนาคารที่มีผลกำไรสุทธิเติบโตโดดเด่นที่สุดคือ KTB โดยกำไรสุทธิเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 81% หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 10.05%หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

รองลงมาคือ BBL โดยกำไรเติบโตอยู่ที่ 18.74% หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 3.90% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เช่นเดียวกับ TTB กำไรเติบโตโดดเด่น โดยเพิ่มขึ้น 9.62% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้นถึง 24.19% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ในด้านการตั้งสำรองหนี้สูญ หรือผลขาดทุนทางเครดิต สำรองโดยรวมของทั้ง 11 ธนาคารโดยอยู่ที่ 59,464 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.88% หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 14.80% จากไตรมาสก่อนหน้า 

โดยธนาคารที่ตั้งสำรองสูงที่สุด คือ BAY โดยตั้งสำรองอยู่ที่ 12,271 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 111% หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลง 38.57% หากเทียบกับช่วงไตรมาสก่อนหน้า KBANK ตั้งสำรองไตรมาสนี้อยู่ที่ 11,684 ล้านบาท ลดลง 13.91% จากไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 7.94% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ถัดมาคือ SCB สำรองอยู่ที่ 10,201 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.34% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 2.76% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และ BBL สำรองไตรมาสนี้อยู่ที่ 8,582 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.87% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 1.27% จากช่วงเดียวกันปีก่อน