ก.ล.ต.รุดตรวจสอบเข้ม เงินกองทุน‘แซดคอม‘

ก.ล.ต.รุดตรวจสอบเข้ม เงินกองทุน‘แซดคอม‘

ก.ล.ต.เข้าตรวจสอบ“บล.แซดคอม”เผยปัจจุบันฐานะเงินกองทุนยังทำได้ตามเกณฑ์มองยังรองรับ“ความเสี่ยงธุรกิจ” ได้ชี้หากพบกองทุน“ลดต่ำลง”ใกล้ระดับเตือนภัยที่กำหนด1.5 เท่าของเงินกองทุนขั้นต่ำจะเรียกคุยทันที

จากกรณี บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Z.com ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์ ที่มีกระแสข่าวว่า Z.com ได้เรียกสินเชื่อซื้อหุ้นหรือมาร์จิ้นคืนจากลูกค้า ทำให้ราคาหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กทรุดลงแรง จนถูกบังคับขาย (Forced Sell) หรือต้องนำเงินมาเติม

โดยสาเหตุที่ Z.com ต้องเรียกมาร์จิ้นคืน เนื่องจากมีอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ต่ำจากเกณฑ์ที่กำหนด ทำให้ต้องเก็บเงินสดมาเสริมสภาพคล่อง

โดยในส่วนฐานะการเงินของ Z.com ที่มีผลขาดทุนต่อเนื่องนั้น จะเป็นหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตราดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่ต้องไปจัดการสั่งให้ดำเนินการเพิ่มทุนต่อไป

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการและโฆษก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำหรับกรณี Z.com ในปัจจุบันบริษัทยังคงสามารถดำรงเงินกองทุนได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ซึ่งทาง ก.ล.ต. เห็นว่าการที่บริษัทหลักทรัพย์มีเงินกองทุนที่มากในระดับหนึ่ง

ดังนั้น มองว่าจะช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวนั้น มีเงินกองทุนที่สามารถรองรับความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจได้ ซึ่งจะช่วยให้บริษัทหลักทรัพย์สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และยังสามารถขยายการประกอบธุรกิจได้ตามนโยบายของบริษัทด้วย 

ดังนั้น ในกรณีที่บล.ใดมีเงินกองทุนลดต่ำลงใกล้ระดับเตือนภัยที่กำหนด (ระดับเตือนภัย หรือ Early Warning คือ 1.5 เท่าของเงินกองทุนขั้นต่ำที่ต้องดำรง) ก.ล.ต. จะมีการหารือกับบริษัทเพื่อให้บริษัทมีการดูแลในเรื่องดังกล่าว

ส่วนการพิจารณาว่าจะดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างไร นั้น จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาและตัดสินใจทางธุรกิจของบริษัท โดยต้องเป็นไปตามเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องในเรื่องการดำรงเงินกองทุน

ทั้งนี้ ตามประกาศที่เกี่ยวข้อง ถ้า บล. ใดมี NCR ต่ำกว่าระดับ early warning 10.5% บริษัทต้องจัดทำแผนแก้ไข และหาก NCR < 7% บล. ต้องระงับการขยายธุรกิจ ถัดจากนั้นหาก NCR < 0 และไม่สามารถแก้ไขได้ใน 5 วัน หรือไม่สามารถชำระราคาส่งมอบหลักทรัพย์ฯ ได้ตามกำหนด บริษัทต้องระงับการประกอบธุรกิจ และโอนทรัพย์สินลูกค้าไปยัง บล. อื่นภายในเวลาที่กำหนด