ข้อมูล BOJ ชี้ญี่ปุ่น แทรกแซง ’เงินเยน’ 2 ครั้งติด รวมกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์

สำนักข่าวนิกเคอิเอเชียรายงานอ้างถึงข้อมูลจากธนาคารกลางญี่ปุ่น( BOJ ) รัฐบาลญี่ปุ่นได้ทำการแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงินเยน ด้วยการเข้าซื้อเยน และเทขายดอลลาร์ คิดเป็นวงเงินกว่า 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์ (4.7 แสนล้านบาท)โดยมีการแทรกแซงค่าเงินเยน 2 ครั้งติดกันในวันที่ 13 และ 14 ก.ค.67 ที่ผ่านมา  สะท้อนความกังวลของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องของเงินเยน

ข้อมูลยอดคงเหลือบัญชีเดินสะพัดของ BOJ ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 16 ก.ค.67 แสดงให้เห็นว่ามีการระบายสภาพคล่องออกจากระบบการเงินประมาณ 2.74 ล้านล้านเยน  (ราว  6.2 แสนล้านบาท) ในวันนี้(17 ก.ค.67) จากระบบเศรษฐกิจ สำหรับธุรกรรมต่างๆ ในภาคส่วนของรัฐบาล ซึ่งปรับเพิ่มจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 6 แสนล้านเยน

นอกจากนี้ ช่องว่างที่สำคัญระหว่างตัวเลขคาดการณ์ และตัวเลขที่เกิดขึ้นจริงของยอดคงเหลือบัญชีเดินสะพัดของ BOJ มากกว่า 2 ล้านล้านเยน ชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของธุรกรรมที่ไม่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า เช่น การแทรกแซงตลาดเงินตราต่างประเทศซึ่งเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เป็นไปได้

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(12 ก.ค.67) เยนพุ่งแตะระดับ 157.30  ต่อดอลลาร์ ซึ่งแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากระดับ 158.80 ต่อดอลลาร์ หลังจากการรายงานข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐเดือนมิ.ย.

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นใช้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เป็นตัวแทนในการแทรกแซงตลาดเงินตราต่างประเทศ ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าการแทรกแซงครั้งล่าสุดใช้เงินไป 2 ล้านล้านเยน ซึ่งผลักดันให้เยนแข็งค่าขึ้นได้เพียงประมาณ 1.50 เยนต่อดอลลาร์ 

ขณะที่การแทรกแซงในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ใช้เงินประมาณ 3.17 ล้านล้านเยน สามารถผลักดันค่าเงินเยนให้แข็งค่าขึ้นประมาณ 4 เยนต่อดอลลาร์ จะเห็นได้ว่าประสิทธิภาพของการแทรกแซงครั้งล่าสุดลดลงเมื่อเทียบกับครั้งก่อน

ยูจิโร โกโต หัวหน้ากลยุทธ์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนจากธนาคารโนมูระ กล่าวว่า การแทรกแซงครั้งที่สองมีประสิทธิภาพน้อยกว่าครั้งแรก เมื่อพิจารณาจากอัตราส่วนของเงินที่ใช้กับผลลัพธ์ที่ได้

ขณะที่รายงาน(17ก.ค.67) เงินเยนเคลื่อนไหวที่ระดับ 158.40 เยนต่อดอลลาร์ หลังจากที่อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดที่ 161.94 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 38 ปี เนื่องจากนักลงทุนเดิมพันว่าช่องว่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างญี่ปุ่น และสหรัฐจะไม่ลดลงในเร็วๆ นี้

นักลงทุนให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดต่อการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปของ BOJ ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30 และ 31 ก.ค.67ที่จะถึงนี้ ซึ่ง BOJ จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายการลดขนาดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล

อย่างไรก็ดี นักลงทุนมีความเห็นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันไป บางคนมองว่าแข็งค่าของเงินเยนจะช่วยลดแรงกดดันต่อ BOJ ในการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้น

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์