SCB เปิด9เดือนกำไร 3.2หมื่นล้าน ลดลง 0.9% ขาดทุนจากการยุติแอปฯ Robinhood
เอสซีบีเอกซ์ เปิดกำไรไตรมาส 3 ยังเติบโต 13.2%หรือ 1หมื่นล้าน จากสำรองหนี้เสียลดลง ขณะที่ 9เดือนกำไรลดลง 0.9% มาอยู่ที่ 3.2 หมื่นล้าน เหตุมาจากค่าใช้จ่ายในการยุติการให้บริการแอปฯ Robinhood
บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ของปี 2567 จำนวน 10,941 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับเก้าเดือนแรกของปี 2567บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 32,236 ล้านบาท ลดลง 0.9% หลังขาดทุนจากการขาย บริษัท Purple Venture หรือ PPV (ผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน Robinhood ในไตรมาส3 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในไตรมาส 3 ของปี 2567 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิมีจำนวน 32,635ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการขยายตัวของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ ในขณะที่ยอดสินเชื่อโดยรวมลดลงเล็กน้อยในอัตรา 0.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
จากความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังภายใต้สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่มีความท้าทายรอบด้านรายได้ค่าธรรมเนียมและอื่น ๆ มีจำนวน 9,985 ล้านบาท ลดลง7.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลหลัก ๆ มาจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการขายประกันภัยและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานจำนวน 17,606 ล้านบาท ลดลง4.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ที่ไม่รวมผลกระทบจากการขายแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี Robinhood อยู่ที่ 40.9%
บริษัทฯ ตั้งเงินสำรองลดลง 10.4% จากปีก่อน เนื่องจากไตรมาสนี้ไม่มีการตั้งสำรองพิเศษเพื่อรองรับความเสี่ยงจากสถานการณ์ ภูมิรัฐศาสตร์ดังเช่นในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพคงอยู่ในระดับสูงที่ 163.9%
คุณภาพของสินเชื่อโดยรวมอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี โดยอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567อยู่ที่ 3.4% ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.3% ในปีก่อน เงินกองทุนตามกฎหมายของบริษัทฯ อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 19.0%
นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า
“เศรษฐกิจไทยโดยรวมยังคงฟื้นตัวอย่างช้า ๆ โดยมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากอุทกภัยในหลายพื้นที่ บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง มุ่งเน้นการเติบโตที่มีคุณภาพและเสริมความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน"
ในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมกับสองธนาคารดิจิทัลชั้นนำในภูมิภาค ได้แก่ KakaoBankและ WeBank ยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) บริษัทฯเชื่อมั่นว่า Virtual Bank จะเข้ามาช่วยขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน อีกทั้งยังส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขายกิจการแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี Robinhood ให้กับกลุ่มผู้ลงทุนซึ่งนำโดยบริษัท ยิบอินซอย จำกัด ภายใต้เจตนารมณ์ที่ต้องการส่งต่อแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรีของคนไทยเพื่อคนไทยต่อไป ทั้งนี้ การขายกิจการดังกล่าวเป็นไปตามกรอบการรักษาเงินที่รอบคอบ เพื่อสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน