‘อาทิตย์’ เอสซีบี เอกซ์ ตั้งเป้าคุมต้นทุน Virtual Bank ไม่เกิน25%

‘อาทิตย์’ เอสซีบี เอกซ์ ตั้งเป้าคุมต้นทุน Virtual Bank ไม่เกิน25%

‘อาทิตย์’เอสซีบี เอกซ์ หวังพึ่งพาเทคโนโลยี-AI เข็นเครื่องยนต์เก่าควบคู่เครื่องยนต์ใหม่ที่มีศักยภาพขึ้น ตั้งเป้าปั้น Virtual Bank บนต้นทุนต่ำกว่า 25% ขณะที่เครื่องยนต์เก่าอย่าง “ธนาคารไทยพาณิชย์” ต้องมีโฟกัสการให้บริการกลุ่มลูกค้ามากขึ้น เพื่อสร้างกำไรสม่ำเสมอ

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCB) กล่าวในงานสัมมนา Batle Stratege เศรษฐกิจยุค AI โอกาสของคนไทยและความเสี่ยง  The AI Economy : Opportunity and Threat for  Thailand ที่จัดขึ้นโดยหนังสือพิมพ์ข่าวหุ้นธุรกิจว่า

ภายใต้บริบทปัจจุบัน ที่ธุรกิจเริ่มขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพื่อใช้ในการตอบสนองลูกค้า ลดต้นทุน แต่อีกด้านก็ต้องพยายามรักษาเครื่องยนต์เก่า เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและองค์กรให้ยังคงอยู่ต่อไป ดังนั้นบนบริบทใหม่ในการทำธุรกิจ ต้องพยายามรักษาไว้ทั้งเครื่องยนต์เก่าและเครื่องยนต์ใหม่ไปพร้อมกัน 

แต่ต้องพยายามทำให้โฟกัสในการดำเนินธุรกิจมีความชัดเจนมากขึ้น เช่นธุรกิจแบงก์ ที่ต้องพยายามโฟกัสในเรื่องการเลือกกลุ่มลูกค้าในการให้บริการมากขึ้น และทำให้เครื่องยนต์โมเดิร์น และทำตัวเองให้เป็น Cash Cow ที่สามารถสร้างกระแสเงินสดและกำไรสม่ำเสมอ 

ขณะที่การสร้างแบงก์ใหม่ในอนาคต ซึ่งหมายถึง Virtual Bank จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้รวมหรือ cost to income ต่ำกว่า 25% หากเทียบกับอุตสาหกรรมธนาคาร สถาบันการเงิน ที่ปัจจุบันมี cost to income เฉลี่ยอยู่ที่ราว 40%

ขณะที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ปัจจุบันอยู่ที่ 37% แม้จะเป็นระดับที่ดี แต่ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของผู้ให้บริการใหม่ๆปัจจุบันอยู่เพียงหลัก 20%เท่านั้น ดังนั้นการคุมต้นทุนในการดำเนินธุรกิจที่ไม่เกิน 25% จะเป็นอาวุธที่ใช้ต่อสู้ในการดำเนินธุรกิจในอนาคต 

“แบงก์เดิมมีความได้เปรียบด้านชื่อเสียง ฐานของทุน การมี Costomer centric ที่ใหญ่มากที่ควรรักษาฐานให้ใหญ่ต่อไป แต่การเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยที่บอกว่าเราจะไม่เป็นแบงก์แล้ว แบบนี้ไม่เอา แต่ต้องพยายามลีนตัวเองให้ได้มากที่สุด และปรับโฟกัสให้แหลมคม เพื่อให้การทำภารกิจแต่ละแบบสำเร็จขึ้นได้ภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ"

สำหรับการลงทุนของกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ให้ทันสมัยเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต ปัจจุบันเอสซีบี เอกซ์ ลงทุนอยู่ที่ปีละกว่า หมื่นล้านบาท

โดยแบ่งเป็นการลงทุนในด้านเทคโนโลยีที่ 60% ของงบลงทุนทั้งหมด และในนี้เป็นการลงทุนเอไออยู่เพียง 10% ดังนั้นมองว่าอนาคตจะเห็นการลงทุนด้านเอไอของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน “เอสซีบี เอกซ์” พยายามใช้ AI เข้ามาใช้ในองค์กรมากขึ้น ภายใต้ 10บริษัทที่อยู่ภายใต้ เอสซีบี เอกซ์  และให้เรื่อง AI เป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่สุดในการดำเนินธุรกิจของ เอสซีบีเอกซ์ เพื่อไปสู่เป้าหมายในปี 2027 หรือปี 2570 ที่บริษัทจะต้องมีรายได้ 75%มาจากAI แต่เหล่านี้ไม่ได้หมายว่าพนักงาน หรือคนจะหายไป แต่หมายถึงกระบวนการทำธุรกิจทั้งหมดจะมีAI เข้ามาในกระบวนการทั้งหมด ทั้งเสริม เติม หรือทดแทนหลังจากนี้ 

ทั้งนี้มองว่า ปัจจุบันทั้งเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการ ฯลฯ ที่ต้องแข่งขันกับโลกข้างนอกวันนี้ มีความเสียเปรียบทุกรูปแบบ ดังนั้นหากไม่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจจะเหนื่อยมาก แง่ต้นทุน จะช่วยทำให้บริษัทมีภูมิคุ้มกันในการทำธุรกิจ ภายใต้ปัจจัยที่มีความไม่แน่นอน ผันผวนมากขึ้น ทำให้สามารถบริหารต้นทุนให้อยู่ในระดับต่ำกว่าคนอื่นๆ เพื่อให้บริษัทมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากขึ้น  

การลงทุนในเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่ไม่ควรลด แต่ทำอย่างไรให้การลงทุนมีประสิทธิภาพ เพื่อเอามาลดต้นทุนให้เกิดการให้บริการลูกค้ามากขึ้น เหล่านี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำไม เอสซีบีเอกซ์ ถึงนำเอไอมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ