เฟดคงดอกเบี้ย 4.5% ตามคาด แต่ยังต้องระวัง TRADE WAR -TECH WAR

บล.เอเชีย พลัส เผย FED มีมติคงดอกเบี้ย 4.5% ตามคาด หลังเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่งและดอกเบี้ยปัจจุบันไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจมากเท่ากับในอดีต อย่างไรก็ดี การเดินหน้าตามแนวทาง MAGA ของประธานาธิบดี TRUMP ส่งผลให้ทั่วโลกอาจมีความกังวลมากขึ้น จากทั้ง TRADE WAR และ TECH WAR
บล.เอเชีย พลัส ระบุว่า FED มีมติเอกฉันท์คงดอกเบี้ยที่ 4.50% ตามคาด โดยประธาน FED (JEROME POWELL) แถลงว่า FED “ไม่จำเป็นต้องรีบปรับลดดอกเบี้ย” หลังอยู่ใน ระดับ NEUTRAL RATE ซึ่งเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่งและตลาดแรงงานยังมีเสถียรภาพ ขณะที่การเดินนโยบายการเงินในระยะถัดไปมีการส่งสัญญาณ ดังนี้
- FED อยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจ จากนโยบายของประธานาธิบดี TRUMP เช่น การอพยพ การเก็บภาษี และการปรับปรุงพลังงาน เป็นต้น
- FED ต้องการเห็นความคืบหน้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับเงินเฟ้อก่อนที่จะปรับดอกเบี้ยอีกครั้ง
- การปรับลดดอกเบี้ยในอนาคตจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่เข้ามาและแนวโน้มเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ในแง่มุมของตลาดการเงิน ด้าน FEDWATCH TOOL คาดการณ์ว่า FED จะปรับลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2568 โดยครั้งแรกอาจเกิดขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย. ก่อนจะปรับลดอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม หากมองภาพไปในระยะข้างหน้า การเดินหน้าตามแนวทาง MAGA (MAKE AMERICA GRATE AGAIN) ของประธานาธิบดี TRUMP ส่งผลให้ทั่วโลกอาจมีความกังวลมากขึ้น จากทั้ง TRADE WAR และ TECH WAR ทำให้หลายประเทศหวังลดความเสี่ยงนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ จะกระทบต่อเศรษฐกิจ ผ่านการปรับลดดอกเบี้ยนำหน้าไปก่อน อาทิ อินโดนีเซีย สวีเดน แคนนาดา เป็นต้น
นอกจากนี้ กระแสการตอบโต้ทางเทคโนโลยีระหว่างจีน-สหรัฐฯ มีโอกาสรุนแรงมากขึ้น กรณีสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแบนการขายชิป H20 ของ NVIDIA ในประเทศจีนให้เข้มงวดยิ่งขึ้น หลังการเปิดตัวโมเดล AI ใหม่ สัญชาติจีน อาทิ DEEPSEEK-V3, QWEN 2.5-MAX (ของ ALIBABA) เป็นต้น ซึ่งต้นทุนพัฒนาถูกกว่า แต่มีประสิทธิภาพที่ดีเมื่อเทียบกับคู่แข่งสัญชาติอเมริกัน อย่าง GPT-4O (ของ OPENAI) และ LLAMA 3.1 405B (ของ META)