ราคาทองคำชะลอ หลังพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากห่วงเศรษฐกิจถดถอย

ราคาทองคำชะลอ หลังพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากห่วงเศรษฐกิจถดถอย

ราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันพฤหัสบดี หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นตลาด สัญญาณลดดอกเบี้ยของเฟด และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ ยังหนุน

รอยเตอร์ส รายงานภาวะตลาดทองคำโลกวันพฤหัสบดื (20 มี.ค.)ว่า ราคาทองคำตลาดสปอต (Spot Gold) ลดลง 0.3% สู่ระดับ 3,038.79 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อเวลา 11.38 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออกสหรัฐ (15.38 GMT) เนื่องมาจากการขายทำกำไร หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,057.21 ดอลลาร์

ราคาทองคำล่วงหน้าของสหรัฐ (Gold Futures) ปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น 0.1% สู่ระดับ 3,043.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองคำปรับตัวลดลงในวันพฤหัสบดี หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงต้นตลาด แต่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกจากการส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจที่ยังคงดำเนินต่อไป

“นักเก็งกำไรพยายามใช้ประโยชน์จากตลาดและขายทำกำไรออกไป ... ผมคิดว่าทุกครั้งที่ทองคำแตะระดับสูงสุด เราก็จะเห็นการต้านทานเล็กน้อย” อเล็กซ์ เอบคาเรียน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Allegiance Gold กล่าว

“ทองคำยังไม่ได้ทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนรายย่อยด้วยซ้ำ เพราะในทางเทคนิคแล้ว เราไม่ได้อยู่ในภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ เรากำลังเห็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นและความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น”

ประธานธนาคารกลางสหรัฐ เจอโรม พาวเวล กล่าวเมื่อวันพุธว่า นโยบายเริ่มต้นของทรัมป์ รวมถึงภาษีนำเข้าจำนวนมาก อาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐชะลอตัวลงและเงินเฟ้อสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐที่คงอัตราดอกเบี้ยไว้ แม้ว่าจะมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงและเงินเฟ้อที่สูงขึ้น

จากข้อมูลของกลุ่มตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (LSEG) ชี้ว่าผู้ค้าประเมินว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลง 69 เบซิสพอยท์ในปีนี้ ซึ่งอย่างน้อยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้ง ครั้งละ 25 เบซิสพอยท์ หรือลดลงโดยรวม 0.5%โดยเชื่อมั่นว่าจะมีการปรับลดลงครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม

ด้านนักวิเคราะห์จาก Citi ระบุในบทวิเคราะห์ว่า “ในกรณีขาขึ้นของเรา เรามองว่าราคาทองคำจะแตะระดับ 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในสิ้นปีนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการในการป้องกันความเสี่ยง/การลงทุนที่สูงขึ้นมากจากความกลัวว่าสหรัฐฯ จะเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเงินเฟ้อสูง”

กระทรวงสาธารณสุขของฉนวนกาซากล่าวว่า มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตอย่างน้อย 91 รายและบาดเจ็บอีกหลายสิบรายจากการโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซา หลังจากที่อิสราเอลกลับมาโจมตีอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการยุติการหยุดยิงที่ดำเนินมา 2 เดือน 

ทองคำทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ป้องกันความไม่แน่นอน และราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ

ด้านราคาโลหะเงินลดลง 1.2% เหลือ 33.41 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาแพลตตินัมลดลง 1.1% เหลือ 982.0 ดอลลาร์ ส่วนราคาแพลเลเดียมลดลง 1.3% เหลือ 946.5 ดอลลาร์