หุ้น KCG ยอดจอง IPO ล้น จ่อเข้าเทรด 3 ส.ค.นี้

หุ้น KCG ยอดจอง IPO ล้น จ่อเข้าเทรด 3 ส.ค.นี้

หุ้น KCG เตรียมเข้าเทรด 3 ส.ค.นี้ หลังนักลงทุนสถาบัน - รายย่อยให้ความสนใจจองซื้อหุ้น IPO ล้น ด้านผู้บริหาร ย้ำเตรียมขยายไลน์ผลิต สร้างศูนย์กระจายสินค้า หวังรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น

บริษัท เคซีจี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KCG เจ้าของคุกกี้กล่องแดงในตำนานที่อยู่ภายใต้แบรนด์ “อิมพีเรียล” เตรียมเข้าเทรดในตลาดหุ้นไทยวันที่ 3 ส.ค.นี้ หลังจากเปิดขายหุ้นให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) ในช่วงระหว่างวันที่ 20-24 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่า มีนักลงทุนให้การตอบรับอย่างล้นหลาม

นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย กล่าวว่า KCG ได้ขายหุ้น IPO จำนวน 155 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 8.50 บาท ในช่วงระหว่างวันที่ 20-24 ก.ค.2566 ซึ่งนักลงทุนให้การตอบรับที่ดี สะท้อนถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นในศักยภาพการสร้างความเติบโตในอนาคต

ดร.วาทิต ตมะวิโมกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้อำนวยการ KCG กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถือเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของ KCG

โดยบริษัทมีแผนขยายการลงทุนเพื่อยกระดับเทคโนโลยีการผลิต การสร้างศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้าแห่งใหม่ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำการผลิตและนำเข้าผลิตภัณฑ์เนย ชีส และอาหารสำเร็จรูปชั้นนำจากทั่วโลก ที่มีคุณภาพรายใหญ่ของประเทศไทย ผ่านการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่สร้างความรื่นรมย์ให้กับรสชาติอาหารอย่างมีคุณภาพ ตลอดจนการจัดหาวัตถุดิบและคัดสรรแบรนด์ชั้นนำจากทั่วทุกมุมโลก สอดรับกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ทั้งนี้ บริษัท ได้วางกรอบการลงทุนระหว่างปี 2566 - 2567 โดยจะขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ชีส และเนยเพิ่มเป็น 4,212 ตันต่อปี และ 23,261 ตันต่อปีตามลำดับ พร้อมก่อสร้าง และพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าและคลังสินค้า KCG Logistics Park เพื่อรองรับการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ขณะเดียวกันจะมุ่งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มลูกค้า B2C ผ่านร้านสะดวกซื้อ ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ และแพลตฟอร์มออนไลน์ อีกทั้งเดินหน้ายกระดับการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้า B2B ผ่านการจัดหาผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจรบนแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยยกระดับโลจิสติกส์สู่ระบบ Cold Chain Fulfillment เพื่อให้รองรับการขนส่งสินค้าได้หลากหลายประเภท และจะขยายตลาดในต่างประเทศผ่านตัวแทนจัดจำหน่าย ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้รายได้จากการส่งออกของบริษัท เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในช่วง 3 ปีข้างหน้า

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์