MPJ หุ้นน้องใหม่ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร วันแรกต่ำจอง IPO 8.33%

MPJ หุ้นน้องใหม่ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร วันแรกต่ำจอง IPO 8.33%

MPJ หุ้นน้องใหม่ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร เปิดเทรดวันแรก 6 พ.ย.2567 ต่ำจอง 8.33% หรือลดลง 0.50 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 5.50 บาท จาก IPO ที่ 6 บาท

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยภาคเช้า ณ วันที่ 6 พ.ย.2567 เวลา 10.00 น. MPJ หุ้นน้องใหม่ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรต่ำจอง 8.33% หรือลดลง 0.50 บาท หรือระดับราคาอยู่ที่ 5.50 บาท จาก IPO ที่ 6 บาท

MPJ หุ้นน้องใหม่ ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร วันแรกต่ำจอง IPO 8.33%

ธีร์ธนัตถ์ จิราศิริวัชร นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า รายได้ในอดีตของ MPJ จะมีความผันผวนจากธุรกิจ Freight Forwarding ตามอุตสาหกรรมที่รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยรายได้จากธุรกิจดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2565 จากการได้งานโครงการใหญ่ ทำให้รายได้ลดลง 30% YoY ในปี 2566 ประกอบกับแนวโน้มค่าระวางเรือและตู้คอนเทนเนอร์ที่ปรับตัวลง 

อย่างไรก็ดี รายได้รวมของ MPJ ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจขนส่งต่อเนื่องและธุรกิจลานตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นรายได้ที่สม่ำเสมอ ซึ่งเมื่อรวมกับแนวโน้มอัตรากำไรชั้นต้นที่แข็งแกร่ง เฉลี่ย 3 ปีที่ 20% ทำให้ MPJ รายงานกำไรปกติปี 2564-2566 ที่ 16 ล้านบาท ลดลง 23% YoY, 73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 358% YoY) และ
83 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY ตามลำดับ หรือเติบโตทุกปี

ทั้งนี้ คาดว่ากำไรปกติปี 2567-2568 ของ MPJ ที่ 89 ล้านบาท  +7% YoY และ 124 ล้านบาท +39%YoY) และ 151 ล้านบาท +21% YoY ตามลำดับ ประเมินกรอบ PER เหมาะสมที่ 14.0x เทียบเท่าค่าเฉลี่ยของผู้ประกอบการในกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจใกล้เคียงกัน อิง EPS68 หลังเข้าตลาดที่ 0.62 บาท/หุ้น โดยใช้จำนวนหุ้นสามัญหลังเข้าตลาดที่ 200 ล้านหุ้น เราประเมินได้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ที่ 8.70 บาท/หุ้น

โดย MPJ วางแผนใช้เงินทุนจาก IPO ในการเพิ่มทุนในบริษัทย่อย MPJWD และการชำระเงินกู้ยืมของสถาบันการเงินและระหว่างกลุ่มบริษัท รวมถึงพัฒนาระบบการบริหารจัดการทรัพยากรองค์กร และการจัดหาซื้อรถหัวลาก หางพ่วงทดแทน และปรับปรุงลานตู้ จัดหารเครื่องมือใช้ในลานตู้ 

นอกจากนี้ยังใช้เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนให้กับบริษัท การลงทุนในในอุปกรณ์ของ MPJ จะช่วยเรื่องประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจลานตู้คอนเทนเนอร์และธุรกิจขนส่งทางบกต่อเนื่องกับท่าเรือซึ่งจะหนุนแนวโน้ม GPM รวมเนื่องจากทั้ง 2 ธุรกิจคิดเป็นกว่า 80% ของรายได้รวมของบริษัท

ขณะเดียวกัน MPJ มีแผนการขยายคลังสินค้ารวมอีก 3 คลังได้แก่ แหลมฉบังเฟส 2 และ 3 ใน จ.ชลบุรี และ ระยองเฟส 2 ใน จ.ระยอง เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจดังกล่าวโดยบริษัทตั้งเป้าสัดส่วนรายได้ที่ราว 3-4% แผนการขยายธุรกิจคลังสินค้าเป็น Catalyst สำคัญเนื่องจากเป็นธุรกิจที่ High Margin และสร้างรายได้ที่เสร็จตั้งแต่ไตรมาส 2/69 - ไตรมาส 1/70  

นอกจากนี้ MPJ อยู่ระหว่างการพิจารณาขยายพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ในกรุงเทพ เพื่อรองรับจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ได้มากขึ้น ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนการนำเงิน IPO เพื่อจัดหารถบรรทุกหัวลากและหางลากใหม่ แผนการขยายดังกล่าวจะผลักดันการเติบโตของทั้งรายได้ธุรกิจลานตู้คอนเทนเนอร์และรายได้ธุรกิจขนส่งทางบกต่อเนื่องกับท่าเรือ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 2/68