CH ราคาเปิดเทรดที่ 3.42 บาท เหนือจอง 46.15%
CH ราคาเปิดเทรดที่ 3.42 บาท เพิ่มขึ้น 1.08 บาท หรือ 46.15% จากราคาไอพีโอที่ 2.34 บาท เตรียมนำเงินระดมทุนขยายธุรกิจ
บมจ.เจริญอุตสาหกรรม(CH) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET) วันนี้ (12 ก.ย.2565) โดยเปิดซื้อขายที่ 3.42 บาท เพิ่มขึ้น 1.08 บาท หรือ 46.15% จากราคาไอพีโอ 2.34 บาท
CH ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลไม้และอาหารแปรรูป แบ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง ปลากระป๋อง และขนมเพื่อสุขภาพ บริษัทเน้นส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศกว่า 50 ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐประชาชนจีน อิตาลี เนเธอร์แลนด์ อินเดีย ไต้หวัน ฝรั่งเศส คูเวต สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น
โดยมีรูปแบบการจำหน่ายสินค้าทั้งแบบรับจ้างการผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (OEM) จำหน่ายสินค้าเป็นแพ็คใหญ่ (Bulk Pack) ให้กับกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม และกลุ่มลูกค้าธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ และจำหน่ายสินค้าภายใต้ตราสินค้าของบริษัท อาทิ ผลไม้อบแห้ง ภายใต้แบรนด์ EROS และ Bangkok Tasty ปลากระป๋อง ภายใต้แบรนด์ Sumaco, Eiffel Tower, Apache, Triangle และเรือรบ รวมถึง ขนมเพื่อสุขภาพ กราโนล่า (Granola) ผักและผลไม้ทอดสุญญากาศ (Vacuum Fried) ภายใต้แบรนด์ Meble
CH มีทุนชำระแล้วหลังการเสนอขาย IPO 400 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.5 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 640 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) 160 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรกระหว่างวันที่ 1 – 2 และ 5 กันยายน ในราคาหุ้นละ 2.34 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 374.40 ล้านบาท
และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,872 ล้านบาท ทั้งนี้ ราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio)เท่ากับ 17.63 เท่า โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ
โดยการระดมทุนและการเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ของบริษัทครั้งนี้นอกจากจะทำให้บริษัทมีเงินทุนในการปรับปรุงโรงงานผลิตสินค้า ก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการผลิต รวมถึงการเสริมสร้างสภาพคล่องซึ่งจะเพิ่มความแข็งแกร่งทั้งด้านฐานะการเงิน และขีดความสามารถในการเติบโตของธุรกิจแล้ว ยังทำให้บริษัทได้เปลี่ยนจากธุรกิจครอบครัวสู่การเป็นธุรกิจที่มีระบบและการบริหารงานอย่างมืออาชีพอีกด้วย
CH มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิโดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังหักเงินสำรองต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ โดยจะขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงาน และฐานะการเงิน สภาพคล่อง แผนการขยายธุรกิจ ความจำเป็น และความเหมาะสมอื่นใดในอนาคตและปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้น 10 ลำดับแรกของบริษัทภายหลัง IPO ประกอบด้วย บริษัท ซีเอช แฟมิลี่ จำกัด และกลุ่มผู้ก่อตั้ง ซึ่งถือหุ้นรวมกัน 54.87%
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์