BTG เปิดเทรดวันแรก 39.75 บาท ลดลง 0.25 บาท ต่ำกว่าราคาจอง 0.62%

BTG เปิดเทรดวันแรก  39.75 บาท ลดลง 0.25  บาท ต่ำกว่าราคาจอง 0.62%

“เบทาโกร” เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันแรก (2 พ.ย.2565) เปิดต่ำกว่าราคาจองอยู่ที่ 39.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.62% จากราคาจองซื้อ IPO ที่ 40.00 บาท

          บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วันนี้ ( 2 พ.ย.2565 ) เป็นวันแรก เปิดต่ำกว่าราคาจองอยู่ที่ 39.75 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือ 0.62 % จากราคาจองซื้อ IPO ที่ 40.00 บาท

          ทั้งนี้ BTG ประกอบธุรกิจเกษตรและอาหารครบวงจร ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้แก่ การผลิต และจำหน่ายอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์สำหรับสัตว์ การทำฟาร์มเชิงพาณิชย์ การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และปลา ผลิตภัณฑ์อาหาร แปรรูป ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมปรุง และพร้อมรับประทาน รวมไปถึงอาหารสัตว์เลี้ยง จำหน่ายในประเทศ และต่างประเทศกว่า 20 ประเทศ ทั่วโลก ปัจจุบันมีแบรนด์ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป และไส้กรอก ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เช่น S-Pure, Betagro, ITOHAM และแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยง เช่น Perfecta, DOG n Joy และ CAT n Joy เป็นต้น

โดย BTG มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้น 9,674 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่ม ทุนต่อประชาชนทั่วไป 434.8 ล้านหุ้น และการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน 65.2 ล้านหุ้น มีกำหนดจองซื้อระหว่างวันที่ 10 - 17 ตุลาคม 2565 ในราคาหุ้นละ 40 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 17,392 ล้านบาท (ไม่รวมหุ้นส่วนเกิน) และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 77,392 ล้านบาท

การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) 21.2 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการของบริษัท ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลัก ทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการ การจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เบทาโกร เปิดเผยว่าบริษัทมีความยินดี เป็นอย่างยิ่งที่ BTG จะได้เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัทในการมุ่งสู่ การเป็นบริษัทอาหารชั้นนำระดับสากลที่ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพ และความปลอดภัยด้านอาหารในราคาที่เป็นธรรม โดยเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความแข็งแกร่งด้านเงินทุน ประกอบกับประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจกว่า 55 ปี และปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของธุรกิจ จะเสริมให้บริษัทมีศักยภาพการเติบโต และการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนทั้งใน และต่างประเทศ โดยบริษัท มีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนไปเป็นทุน

ในการขยายธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่าทั้งใน และต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการขยายกำลังการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพ ของกระบวนการผลิต ตลอดจนชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงานของบริษัท

BTG มีนโยบายในการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังจัดสรรทุนสำรองต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ผลการดำเนินงาน ฐานะทางการเงิน กระแสเงินสด แผนการลงทุน รวมทั้งความจำเป็น และความเหมาะสมอื่นๆ ตามความเห็นสมควรคณะกรรมการบริษัท

ทั้งนี้ หลัง IPO จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ บริษัท เบทาโกร โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 36.18% TAE HK Investment Limited ถือหุ้น 20.67% และกลุ่มครอบครัวแต้ไพสิฐพงษ์ 15% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์