TU กำไรไตรมาส 3/65 นิวไฮ 2.53 พันล้านบาท โต 30.7% - หั่นงบลงทุนปีนี้เหลือ 5 พันล้านบาท
TU กำไรไตรมาส 3/65 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2.53 พันล้านบาท โต 30.7% เหตุยอดขายพุ่ง 4.07 หมื่นล้านบาท นิวไฮจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าเติบโต 55.9% - กลุ่มอาหารทะเลแปรรูปเพิ่มขึ้น 13.6% พร้อมปรับลดงบลงทุนเหลือ 5 พันล้านบาท จาก 6 พันล้านบาท
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2565 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,530.48 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือเพิ่มขึ้น 30.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 1,936.79 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทมีรายได้รวมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 41,000 ล้านบาท
โดยเป็นผลจากการเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าเติบโต 55.9% และกลุ่มอาหารทะเล แปรรูปเพิ่มขึ้น 13.6% ในขณะที่ยอดขายอาหารทะเลแช่แข็ง และแช่เย็นมี ระดับใกล้เคียงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ถึงแม้ว่ายอดขายในสหรัฐมีการปรับตัวลดลงสู่ภาวะปกติ
รวมถึงการที่กำไรของบริษัทที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากการดําเนินงานที่แข็งแกร่งเนื่องมาจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น การอ่อนค่าของสกุลเงินบาท และการปรับสัดส่วนการขายระหว่างกลุ่มผลิตภัณฑ์ ขณะที่กําไรจากอัตราแลกเปลี่ยน และเครดิตภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้น จํานวน 136 ล้านบาทในไตรมาส 3/2565
ทั้งนี้กําไรสุทธิไตรมาส 3/2565 ได้รับผลกระทบบางส่วนจากส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจ Red Lobster ที่เพิ่มขึ้น และรายได้อื่นที่ลดลงจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรมของหุ้นบุริมสิทธิ อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 3/2565 บริษัทมีอัตรากําไรสุทธิในระดับสูงที่ 6.2%
ขณะที่งวด 9 เดือน 2565 มีกำไรสุทธิ 5,899.83 ล้านบาท ลดลง 3%จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 6,082.55 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม TU ตั้งเป้าการเติบโตยอดขายปีนี้ที่ 10-12% จากปีก่อน อัตรากำไรขึ้นต้นที่ประมาณ 17.5-18% สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายประมาณ 12-12.5% อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงไม่เปลี่ยนจากปี 2564 นอกจากนี้ปรับลดงบลงทุนเหลือประมาณ 5 พันล้านบาท จากเดิม 6 พันล้านบาท
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์