'บล.หยวนต้า' มุ่งต่อยอดลงทุนให้ลูกค้า สู่โกลบอล
‘บล.หยวนต้า’มุ่งสู่ตลาดโลก นำ ‘จุดเด่น’ มีเครือข่ายทั่วภูมิภาค เพิ่มโอกาสลงทุนให้ลูกค้า พร้อมกำลังเตรียมตัวยื่นขอไลเซนส์ประกอบธุรกิจ “สินทรัพย์ดิจิทัล” คาดเริ่มให้บริการโทเคนก่อน
สมัยอดีต “การลงทุน” ถือเป็นเรื่องไกลตัว แต่ตอนนี้กลายเป็นปัจจัยที่ 6 ของชีวิตคนรุ่นใหม่ รวมทั้งรูปแบบการลงทุน หรือ การให้บริการ ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ขณะเดียวกันการเกิดขึ้นของ “สินทรัพย์ดิจิทัล” (Digital Asset) เป็นสิ่งที่ทวีความสำคัญมากขึ้น ดังนั้น โลกของการลงทุนจะแคบลงทั้ง “การเชื่อมต่อ” (Connect) กับ “ภูมิภาค” (Regional) หรือ “ทั่วโลก” (Global) จะมีความสำคัญมากขึ้น !
ฉะนั้น หนึ่งในอุตสาหกรรมที่เป็น “จิ๊กซอว์” เชื่อมต่อการลงทุนคือ “บริษัทหลักทรัพย์” (โบรกเกอร์) และบริษัทหลักทรัพย์ที่อาจจะถือเป็นน้องใหม่ เพราะก่อตั้งมาเพียง 5 ปี ! อย่าง บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการเพื่อเข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“บุญพร บริบูรณ์ส่งศิลป์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า สำหรับแผนธุรกิจมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจหลัก (Core Business) ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี หาก บล.หยวนต้า ยังยึดติดอยู่กับการดำเนินธุรกิจรูปแบบเดิมๆ โอกาสสร้างการเติบโตยั่งยืนย่อมยากขึ้น จึงต้องเดินแผนรักษาฐานที่มั่นในธุรกิจเดิม “ธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์” พร้อมไปกับรุกสู่ “ธุรกิจใหม่” (New Business) คือ ธุรกิจที่เป็นเทรนด์ของโลกอย่าง “สินทรัพย์ดิจิทัล”
สะท้อนผ่านการที่บริษัทมีแผนศึกษาจะดำเนิน “ธุรกิจนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัล” (Digital Asset Broker) ผ่านการสนับสนุนในโครงการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDX) โดยคาดจะให้บริการเป็นนายหน้าซื้อขายทั้ง Investment Token และ Utility Token ที่เข้ามาซื้อขายใน TDX ซึ่งโทเคนที่ให้คำแนะนำผู้ลงทุนต้องมีสินทรัพย์ภายใต้โทเคนที่สามารถประเมินมูลค่าได้ เช่น Cash Flow ที่ผู้ถือโทเคนจะได้รับในอนาคต หรือ ประเมินราคาตลาดของสินทรัพย์ อาทิ อสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ภายใต้โทเคนดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมตัวยื่นขอใบอนุญาต (ไลเซนส์) จาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และขออนุญาตทำธุรกิจจากกระทรวงพาณิชย์
“แม้ว่าบรรยากาศการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทยขณะนี้อาจดูยังไม่ค่อยสดใส แต่ต่างประเทศ การซื้อขายค่อนข้างคึกคัก ดังนั้น เราคงจะหยุดนิ่ง ไม่พัฒนาไม่ได้ เพราะหากเราหยุดแปลว่าเราถอยหลัง แต่เราจะให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่จับต้องได้ และอ้างอิงกับพื้นฐานที่มีอยู่จริง ซึ่งเรามีการเตรียมความพร้อมด้วยการเชิญผู้เชี่ยวชาญมาอบรมภายในให้กับบุคลากรของเราอย่างต่อเนื่อง”
“บุญพร” แจกแจงว่า เป้าหมาย 3 ปี (2566-2568) สำหรับการเติบโตอยากเห็นการเติบโตแบบ “มั่นคง” ไม่ต้องหวือหวา แต่มั่นคงทั้งในแง่ของ “รายได้-กำไร” ซึ่งบริษัทจะเติบโตแบบนั้นได้ต้องพัฒนาการลงทุนด้วยการติดปีกหรือติดอาวุธให้นักลงทุนสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ เมื่อถึงจุดนั้นก็คงไม่ต้องเหนื่อยกับการหาลูกค้ารายใหม่ๆ เข้ามาแทนลูกค้ารายเก่าที่ล้มหายไปจากตลาด
โดยมุ่งเน้นการเติบโตไม่เฉพาะในประเทศ แต่เป้าหมายอยากพาลูกค้าต่อยอดการลงทุนในต่างประเทศด้วย ซึ่งจะมี บล.หยวนต้า เป็นพี่เลี้ยงให้ และจะคัดเลือกโปรดักต์ที่ดีเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า เนื่องจาก “จุดเด่น” ของเราคือมีเครือข่ายหลายหลายประเทศในเอเชีย และในแต่ละประเทศมีโปรดักต์ที่ดีแตกต่างกัน ดังนั้น บล.หยวนต้าจะเป็นคนที่คัดสินค้าที่ดีมานำเสนอ และมุ่งเน้นการลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ “การบริหารความมั่งคั่งของลูกค้า” หรือ Wealth Management
สอดคล้องกับการ “ไดเวอร์ซิไฟด์” โปรดักต์ต่างๆ ให้มีความหลากหลาย เนื่องจากไม่ต้องการพึ่งพิงธุรกิจโบรกเกอร์เพียงอย่างเดียว เพราะเวลาที่ตลาดหุ้นแย่ธุรกิจโบรกเกอร์ก็แย่ไปด้วย ดังนั้น หากบริษัทพึ่งพิงธุรกิจโบรกอย่างเดียวคง “ตาย” แน่นอน แต่โชคดีที่บริษัทมีโปรดักต์อื่นๆ ทั้ง DW , ที่ปรึกษาทางการเงิน , รับประกันจำหน่ายหลักทรัพย์ , ตราสารหนี้ , กองทุน เป็นต้น จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทมีการพึ่งพิงรายได้ซื้อขายหลักทรัพย์ถึง 90% แต่วันนี้ลดลงมาเหลือ 49% และโปรดักต์อื่นๆ รวมกัน 51% จึงทำให้ปัจจุบันธุรกิจของบริษัทค่อนข้างมั่นคง
“เราเปรียบตัวเองเป็นรถยนต์มี 4 ล้อ หากเรามีล้อเดียวคงไปไม่รอด แต่วันนี้เราไม่ได้ยืนด้วยล้อเดียว แต่เรายืนด้วย 4 ล้อแล้ว เนื่องจากมีโปรดักต์ตอบโจทย์ลูกค้าที่หลากหลาย และยังมีรูมที่จะขยายแต่ละโปรดักต์ไปได้อีกมาก ยอมรับช่วง 3 ปีแรก เราต้องสร้างให้แต่ละโปรดักต์สามารถที่จะใช้งานได้ก่อน ตั้งแต่รากฐานต้องแข็งแรงก่อนจะไปถึงหลังคา”
สำหรับการบริหารลงทุนเพื่อลูกค้า ซี่งบริษัทสามารถทำได้ใน 2 รูปแบบคือ Portfolio Advisory (PA) และ Program Trading (PT) ปัจจุบัน บล. หยวนต้า ให้บริการลูกค้าทั้งสองรูปแบบ ซึ่งตั้งเป้าหมายการเติบโตเงินลงทุนหรือสินทรัพย์ของลูกค้าภายใต้การให้บริการของบริษัท (AUA) ใน 3 ปีข้างหน้า จะเติบโต “เท่าตัว” จากปัจจุบันที่เงินลงทุนหรือสินทรัพย์ภายใต้การให้บริการของบริษัทมีมูลค่าประมาณ 300,000 ล้านบาท และอีกหนึ่งเป้าหมายอยากเห็น บล.หยวนต้า เข้าไปโลดแล่นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ซึ่งก่อนที่จะถึงจุดนั้น บริษัทต้องทำกำไรสม่ำเสมอในระดับประมาณ “พันล้าน” ก่อน
ล่าสุด ในงาน SET Awards 2022 บล.หยวนต้าได้รับรางวัลยอดเยี่ยม Best Securities Company Awards ด้านการให้บริการแก่นักลงทุนบุคคล และ รางวัลยอดเยี่ยม Deal of the Year Awards ด้านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ซึ่งการคว้า 2 รางวัลยอดเยี่ยม ถือเป็นตอกย้ำการเป็นโบรกเกอร์คุณภาพแห่งหนึ่ง
ท้ายสุด “บุญพร” บอกไว้ว่า เราจะไม่หยุดยั้งในการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และยกระดับบริการของเราโดยการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองให้ทันต่อความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เราจะไม่ยอมหยุดนิ่ง แต่เราจะมุ่งไปข้างหน้า เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา และอยากเห็นบริษัทให้บริการอย่างครบวงจรทั้งในและต่างประเทศ