ลึกลับ เคส 24CS |ออฟเรคคอร์ด

ลึกลับ เคส  24CS  |ออฟเรคคอร์ด

นับตั้งแต่มีเคสหุ้น MORE ทำให้เกิดปฎิกิริยา ล้างบาง ตลาดทุนไปหลายเรื่องจนทำให้คลื่นลมในตลาดหุ้นไทย “เงียบสงบ” มากขึ้น

๐๐๐ เคส  24CS 

  นับตั้งแต่มีเคสหุ้น MORE ทำให้เกิดปฎิกิริยา ล้างบาง ตลาดทุนไปหลายเรื่องจนทำให้คลื่นลมในตลาดหุ้นไทย “เงียบสงบ” มากขึ้น

    

ทั้งสายเทรดดิ้งเน้นซื้อขายรายวัน  นักลงทุนรายใหญ่   จนไปถึงสาย Market Maker ที่โดนเคสดังกล่าวทำสะดุดไปหลายกลุ่มหลายก๊วน 

ยอมรับเลยว่าในตลาดหุ้นไทยมี “อาชีพ” Market Maker ทำกันจนเป็นเครือข่าย  - ก๊วนใหญ่ ใคร “ภาษีดีหรือมีผลงานการันตรี”  ดีลหุ้นแทบจะ พุ่งเข้าชน หรือมีเรียกไป รับงาน กันเลย 

หลังก๊วน MORE ดีแตกทำเรื่องใหญ่ “ ปล้นโบรก”ออกมาเรื่อง “ดาร์ทๆ เทาๆ”  โผล่มาต่อเนื่องว่าเกี่ยวพันธ์เป็น Market Maker ให้หุ้น 24CS ตั้งแต่ช่วงไอพีโอเพราะปรากฎรายชื่อผู้ถือหุ้นออกมามีก๊วน MORE เข้าถือหุ้นยกกลุ่ม  

พอมีเรื่องขึ้นมาแบบนี้ เจ้าของตัวจริง และ ผู้ถือหุ้นใหญ่ ต้องขอเคลีย์ด่วนๆ ให้ก๊วน MORE เป็น Market Maker จริงและเหลือหุ้นในมือก๊วนนี้ 40 ล้านหุ้นพยายามซื้อคืนแต่ตกลงราคาไม่ลงตัว !! 

เลยเป็นที่มาของการเทขายหุ้น 24CS ในตลาดกดราคาหุ้นลงไปหลุด 3 บาท.. ขนาด ช้อนซื้อ สวนแล้วแต่ราคาต่ำกว่าไอพีโอที่ 3.40 บาท 

๐๐๐

เริ่มต้นสัปดาห์สุดท้ายของปี หุ้นไทยปรับตัวคึกคัก ยืนบวกได้ตลอดทั้งวัน รับแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคป จากการทำราคาปิดงวดบัญชี (Window Dressing) และเม็ดเงินจากกองทุน RMF และ SSF ขณะเดียวกันมีข่าวดีจากฝั่งจีนที่กำลังเดินหน้าเปิดเมือง ผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด

โดยดัชนีปิดการซื้อขายที่ 1,626.80 จุด เพิ่มขึ้น 9.25 จุด หรือ 0.57% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,629.26 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,619.69 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางเพียง 29,439.53 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติขาย 24.49 ล้านบาท พอร์ตโบรกฯ ขาย 328.23 ล้านบาท นักลงทุนรายย่อยขาย 1,129.91 ล้านบาท มีเพียงนักลงทุนสถาบันซื้อ 1,482.64 ล้านบาท

๐๐๐

แท็กทีมขึ้นมายกกลุ่ม บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ปิด 53.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50บาท หรือ 0.94%, บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) ปิด 75.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.33% และบมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ปิด 192 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท หรือ 1.05% รับอานิสงส์จากการทำ Window Dressing ช่วงปลายปี เพราะล้วนเป็นหุ้นใหญ่ขวัญใจต่างชาติกันอยู่แล้ว

๐๐๐

อีกหุ้นในเครือ บมจ.ไทยคม (THCOM) วอลุ่มคึกคักขึ้นผิดหูผิดตา ดันราคาขึ้นมาปิดล่าสุด 14 บาท สูงสุดในรอบปีครึ่ง เก็งกำไรหลังใกล้ถึงวันเปิดประมูลดาวเทียมใหม่ 8 ม.ค. 2566 ทั้งนี้ ด้วยราคาหุ้นที่พุ่งแรง อาจถูกเทขายได้ทุกเมื่อ หลังเกินเป้าหมายของหลายโบรกฯ ไปมากแล้ว ดังนั้นควรต้องเพิ่มความระมัดระวังกันไว้ด้วย

๐๐๐

บรรยากาศท่องเที่ยวช่วงหยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่สุดคึดคัก! โดย ทอท. บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) คาดจำนวนผู้โดยสารทั้ง 6 สนามบิน ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2565 – 4 ม.ค. 2566 จะพุ่งแรงทะลุ 2 ล้านคน หรือ เพิ่มขึ้นกว่า 171% YoY หนุนราคาหุ้น AOT พุ่งรับข่าวดีทันที มาปิด 73.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 1.03%

๐๐๐

หุ้นบมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) ปิด 4.48 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 2.28% เก็งกำไรลุ้น ครม. เคาะมาตรการ “เราเที่ยวด้วยกันเฟส 5” วันนี้ หลังปรับลดวงเงินตามคำสั่งของนายกฯ เป็นที่เรียบร้อย โดย ERW เป็นหุ้นโรงแรมที่จะได้รับอานิสงส์มากที่สุด เพราะห้องพักส่วนใหญ่อยู่ในประเทศ

๐๐๐

ส่วนบมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) ติดสปีดเร่งเดินเครื่องธุรกิจ ล่าสุดทุ่มงบกว่า 1 พันล้านบาท เข้าซื้อโรงแรมดัง “ดุสิต ดีทู เชียงใหม่” ถือเป็นโรงแรมแห่งที่ 4 ของบริษัทในเชียงใหม่ รองรับการเติบโตของอุตหกรรมการท่องเที่ยว