‘โกตัม อดานิ’ หลุดโผมหาเศรษฐีเบอร์ 4 โลก หลังราคาหุ้นร่วงหนักจากข่าวฉาว

จากกรณีที่ฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช บริษัทวิจัย และลงทุนสัญชาติอเมริกา ปล่อยเอกสารกล่าวหา โกตัม อดานิ มหาเศรษฐีชาวอินเดีย และเจ้าของบริษัท อดานิ กรุ๊ป ว่าตกแต่งบัญชี ใช้บริษัทในต่างประเทศเพื่อฟอกเงิน และทุจริตทางภาษี ด้านนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าบริษัทฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช ปล่อยข้อมูลดังกล่าวเพื่อเปิดเผยความจริงต่อสังคม และหวังสร้างความรู้สึกเชิงลบต่อหุ้นของกลุ่มบริษัท และทำการขายชอร์ตหุ้น (ชอร์ตเซล) เพื่อหวังผลกำไรภายหลัง

วันนี้ (30 ม.ค.2566) ฟอร์บ นิตยสารด้านการเงิน รายงานว่า ความมั่งคั่งสุทธิของอดานิปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยลำดับความมั่งคั่งสุทธิของอดานิเปลี่ยนแปลงจากมหาเศรษฐีผู้มีความมั่งคั่งสุทธิมากที่สุดลำดับที่ 4 ของโลก ด้วยมูลค่า 1.134 แสนล้านดอลลาร์ มาอยู่ในลำดับที่ 8 ด้วยมูลค่า 8.72 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 9,500 ล้านดอลลาร์ หรือ 9.81% (ข้อมูล ณ เวลา 14.40 น.) ภายในหนึ่งสัปดาห์ โดยความมั่งคั่งสุทธิของอดานิกลับมาเป็นรอง วอร์เรน บัฟเฟตต์ (ความมั่งคั่งสุทธิ 1.079 แสนล้านดอลลาร์) นักลงทุนชาวอเมริกัน และบิลล์ เกตส์ (ความมั่งคั่งสุทธิ 1.041 แสนล้านดอลลาร์) หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ อีกครั้ง

ย้อนกลับไปช่วงต้นปี 2565 อดานิ ครองตำแหน่งผู้ที่มีความมั่งคั่งสุทธิมากที่สุดเป็นลำดับที่ 3 ของโลกมาอย่างยาวนานก่อนที่ เจฟฟ์ เบโซส์ เจ้าของอเมซอน แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) แอลวีเอ็มเอช บริษัทข้ามชาติผู้ผลิตสินค้าฟุ่มเฟือยระดับโลก และอีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัทเทสล่า มอเตอร์ จะแซงหน้าจนทำให้อดานิกลายเป็นมหาเศรษฐีผู้รวยเป็นลำดับที่ 4 ของโลกในช่วงท้ายของปีที่ผ่านมา

เมื่อวันศุกร์ ที่ 27 ม.ค. ราคาหุ้นของบริษัทในเครืออดานิ กรุ๊ป ดิ่งลง 20% เป็นผลมาจากรายงานของบริษัทฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ช อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่นาน บริษัท อดานิ กรุ๊ป จึงออกรายงานตอบโต้ความยาว 413 หน้า ซึ่งข้อความส่วนหนึ่งระบุว่า

“การทำธุรกรรมทุกอย่างของเราล้วนเป็นไปตามหลักการทางกฎหมายของประเทศอินเดีย และเป็นไปมาตรฐานอันดีของบริษัท สิ่งที่ฮินเดนเบิร์ก รีเสิร์ชทำคือ เพียงต้องการสร้างความปั่นป่วนในตลาดหุ้น และขายชอร์ตเพื่อนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเท่านั้น”

อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวเดอะนิวอินเดียน เอ็กเพรส ระบุว่า คำอธิบายดังกล่าวยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้หุ้นในกลุ่มบริษัท ได้มากเท่าที่ควร เนื่องจากในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของบริษัทดังกล่าวย่อตัวลงกว่า 14.43% (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ม.ค. 2566 เวลา 11.45 น.)

มากไปกว่านั้น เว็บไซต์อินเวสติง ดอทคอม รายงานสภาวะหุ้นของกลุ่มบริษัทในเครืออดานิ กรุ๊ป ณ เวลา 14.00 น. ดังนี้

1. Adani Ports and Special Economic Zone Ltd (APSE) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.25 ดอลลาร์ หรือ 0.64%

2. Adani Transmission Ltd (ADAI) ปรับตัวลดลง 402.80 ดอลลาร์ หรือ 20%

3. Adani Enterprises Ltd (ADEL) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 113.55 ดอลลาร์ หรือ 4.11%

4. Adani Green Energy Ltd (ADNA) ปรับตัวลดลง 274.10 ดอลลาร์ หรือ 18.44%

5. Adani Total Gas Ltd (ADAG) ปรับตัวลดลง 585.60 ดอลลาร์ หรือ 20%

6. Adani Power Ltd (ADAN) ปรับตัวลดลง 12.40 ดอลลาร์ หรือ 5.%

7. Adani Wilmar Ltd (ADAW) ปรับตัวลดลง 25.85 ดอลลาร์ 5%

8. Adani Ports and Special Economic Zone Ltd (APSE) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.27%

9. Adani Transmission Ltd (ADAI) ปรับตัวลดลง 196.35 หรือ 9.77%

10. Adani Green Energy Ltd (ADNA) ปรับตัวลดลง 269.35 ดอลลาร์ หรือ 18.14%

11. Adani Total Gas Ltd (ADAG) ปรับตัวลดลง 586.90 ดอลลาร์ หรือ 20%

12. Adani Enterprises Ltd (ADEL) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 121.10 หรือ 4.38%

13. Adani Power Ltd (ADAN) ปรับตัวลดลง 12.40 ดอลลาร์ หรือ 5%

14. Adani Wilmar Ltd (ADAW) ปรับตัวลดลง 25.85 หรือ 5%

ด้าน มูเกช อัมบานี เจ้าของ รีไลแอนซ์ อินดัสทรี บริษัทคู่แข่งของบริษัท อดานิ กรุ๊ป ซึ่งมีธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมใกล้เคียง ทั้งปิโตรเคมี โรงกลั่นน้ำมันและแก๊ส โทรคมนาคม ค้าปลีก และสื่อสารมวลชน ต่างมีความมั่งคั่งสุทธิตามอดานิมาไม่ห่าง ด้วยอัตรา 8.4 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยอัมบานีได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีที่มีความมั่งคั่งสุทธิมากเป็นลำดับที่ 2 ในภูมิภาคเอเชีย รองจากอดานิ และเป็นลำดับที่ 10 ระดับโลก รองจาก แลร์รี่ เพจ กรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทกูเกิล รวมทั้งโกตัม อดานิ ด้วย